Site icon Sirichaiwatt

วิเคราะห์ หุ้น Jas หลังประมูล 4G

เป็นข้อมูลวิเคราะห์หุ้น Jas หรือ จัสมินอินเตอร์เนชั่นแนล เจ้าของ 3bb คร่าวๆ ทิศทาง หรือภาพรวมจากงบการเงินโดยทั่วไปหลังจากการประมูลคลื่น 900MHz ได้มา 10MHz มูลค่า 75,654 ล้านบาท อายุ 15 ปี

มีมุมมองภาพรวมสำหรับการประมูลครั้งนี้ไว้แตกต่างกัน ประเด็นแรกคู่แข่งอย่าง AIS (Advanc) มองว่า “แพง” แต่ผู้ชนะร่วมครั้งนี้อย่าง TRUE มองว่า “ถูก” โดยต่างให้เหตุผลในฝั่งตัวเอง.. ซึ่งก็คงแน่แท้เพราะไม่เช่นนั้นต่างฝ่ายคงไม่ตัดสินใจกันเช่นนี้ โดยรวมๆ แล้วฝ่ายที่ได้ย่อมบอกว่า “คุ้ม” และอีกฝ่ายย่อมบอกว่า “ไม่คุ้ม” ในราคาดังกล่าว ซึ่งก็ไม่ทำให้เราๆ ตัดสินได้เลย ว่าตกลงมันถูกหรือแพง คุ้ม หรือไม่ ไม่คุ้ม โดยอย่างยิ่งแล้วเมื่อเรามองมายัง Jas ผู้ชนะอีกรายที่เข้ามาเป็นหน้าใหม่ในวงการ

วิเคราะห์ หุ้น Jas

มาดูในมุมมองการเงินคร่าวๆ ที่ผมต้องการจะแสดงให้เพื่อเป็นข้อมูลความเข้าใจ โดยต้องขอบอกก่อน ข้อมูลนำมาจาก set.or.th เป็นหลักแต่ไม่ขอแสดงข้อมูลแบบละเอียดเพราะเป็นการสรุปข้อมูลเพื่อให้เห็นภาพรวม เพราะตัวเลขแบบละเอียดๆ ดูไปพาลจะเข้าใจยากและสับสนเสียเปล่าๆ

เบื้องต้น ค่าประมูลประมาณ 7 หมื่น 5 พันล้านโดยสิทธิ์ 15 ปีนี้ทำให้มีต้นทุนส่วนนี้แบบ คร่าวๆ ปีละ 5 พันล้านทันที (ยังไม่รวมดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายการดำเนินการทางการเงิน ซึ่งน่าจะมากกว่าที่บอกไปขึ้นไปอีกหากเราคิดคำนวณอย่างง่ายๆ

เมื่อมีรายจ่ายเรามามองรายได้ โดยหากดูจากงบการเงินชี้ไปที่ กำไรสุทธิ 3 ปีล่าสุด (56-58) ของหุ้น Jas จะพบว่ามีกำไรเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3 พันล้านบาท (หากดูงบปี 58 จะเห็นว่ามีกำไรมาก ซึ่งไม่ใช่กำไรปกติเป็นการเล่นเกมส์ เอ้ย จัดการทางการเงินทำให้มีกำไรในเรื่องการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน) ซึ่งหากมองง่ายๆ แบบนี้เราจะพบว่า ขาดทุนทันที 2 พันล้านบาทต่อปี จากการต้องจ่ายค่าประมูลเฉลี่ยปีละ 5 พันล้าน แบบง่ายๆ

แต่เดี๋ยวก่อนเรายังไม่ได้มองกำไรที่จะได้มาจากให้บริการมือถือที่ประมูลมา คำถามที่ยังตอบยากว่าแล้วจะได้กำไรจากส่วนนี้เท่าไหร่ เมื่อไปดูรายเก่ารายหนึ่งอย่าง Dtac (ที่นำ Dtac มาเป็นตัวอย่างนี่เพราะ True และ AIS มีรายได้อื่นๆ หลายด้านมากกว่า) จะพบว่ามีกำไรประมาณปีละ 1 หมื่นล้านบาทบนข้อมูลล่าสุดที่ 26.6 ล้านเลขหมาย คิดแบบไม่ถูกต้องแต่เข้าใจง่ายคือเฉลี่ยราว 375 บาทต่อเลขหมาย โดยจริงๆ หากหักกำไรส่วนอื่นและการบริหารต้นทุนของกิจการที่ทำมานานอาจทำให้ Jas ไม่ได้เท่านี้ อย่างไรก็ตาม Jas มองไว้ว่าจะเริ่มทันทีด้วยลูกค้าคาดหมายกลุ่มแรกราว 1.7 ล้านเลขหมาย หาก Jas สามารถทำกำไรต่อเลขหมายได้ใกล้เคียงนั่นคือกำไรประมาณ (1.7 ล้าน x 375) 637 ล้านบาท.. เพียงเท่านั้น

ปัจจัยลบ เพิ่มเติมที่มีผลต่อรายได้คือ ต้นทุนที่ยังต้องลงทุนเรื่องโครงข่าย ราคาการให้บริการที่ต้องเรียกลูกค่า ค่าโฆษณา กิจกรรมส่งเสริมการขาย โดยรวมๆ ถือว่าย่อมมีต้นทุนมากกว่าผู้ให้บริการเดิมข้อเสียของ Threat of New Entrants ต่างๆ

ปัจจัยด้านบวก ที่จะทำให้กำไรมากขึ้นก็คือ Synergy กับผลิตภัณฑ์เดิมคือ อินเตอร์เน็ตแบบสาย และ Digital Content อื่นๆ ที่กำลังขยายออกมา เหล่านี้ก็มีโอกาสทำให้กำไรมากขึ้น แต่จะมากกว่า 2 พันล้าน หรือคิดเป็นกว่า 60% ของรายได้เดิมได้หรือไม่ยากจะคาดเดา

อีกปัจจัยเชิงบวกก็คือ เลขหมายที่เป็นเป้าหมายคงไม่เพียง 1.7 ล้านรายเท่านั้น ประกอบกับพันธมิตรทางการค้าอื่นๆ ที่อาจนำมาซึ่งรายได้เพิ่มเติมและต้นทุนที่ลดลงในอนาคต

สรุป Jas อาจต้องเข้ามาด้วยสถานะติดลบในหลายด้านเหมือน True เมื่อหลายปีก่อนดังนั้นแล้วเราอาจจะเห็นราคาหุ้น Jas ไม่ต่างกับ True เมื่อราว 5 ปีก่อน (ขึ้นลงผันผวนแรงบนสภาพขาดทุน) โดย True ปัจจุบันก็อาตต้องย้อนกลับไปบนการเพิ่มทุนที่มากมายเพราะชนะประมูล 2 คลื่น ดังนี้แล้วหุ้น Jas อาจเป็นหุ้นเทคนิคมากกว่าพื้นฐานไปโดยปริยาย แต่ไม่ได้หมายความว่าลงทุนยาวไม่ได้ เพียงแต่หากวิเคราะห์เปรียบเทียบแล้ว Jas และ True วันนี้มีสภาพคล้ายคลึง แต่ True ภาษีดีกว่าหลายด้านด้วยมี Synergy มากกว่า สถานะพันธมิตรชัดเจน คลื่นและผลิตภัณฑ์ในมือที่ตั้งต้นมาดีแล้ว หากซื้อทิ้งกันไปยาวๆ หลายๆ ปี คงเป็นที่มั่นใจได้มากกว่านั่นเอง และโดยรวมบนกลุ่มสื่อสารถือว่ายังผันผวนและมีตัวอื่นที่น่าสนใจกว่าในแง่ความเสี่ยงต่ำ

ทั้งสิ้นเป็นความเห็นส่วนตัวบนข้อมูลเชิงวิเคราะห์คร่าวๆ เพื่อนำไปต่อยอด ไม่ใช่ข้อมูลทางสถิติแท้จริง โปรดพิจารณาให้ถี่ถ้วน เพราะนี่ไม่ได้เป็นการชี้ชวนให้ลงทุนหรือไม่ลงทุนแต่อย่างใด

Exit mobile version