จากข่าวเมื่อคืนในการแถลงการของ OPEC (27 พฤศจิกายน 2557) ที่ไม่ยอมลดกำลังการผลิตน้ำมันลง ที่ย่อมมีผลต่อ หุ้นพลังงาน หลายตัว โดยก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันโลกลดลงค่อนข้างรุนแรง จึงมีการคาดเดาว่า OPEC จะต้องลดกำลังการเผลิตเพื่อช่วยพยุงราคา แต่ผลปรากฏว่า OPEC ไม่ลดกำลังการผลิตทำให้ราคาน้ำมันดิบส่งมอบล่วงหน้าราคาตกลงทันทีอย่างรุนแรง ทำสถิติไม่แพ้ช่วงวิกฤติการซับไพรม์เลยทีเดียว
ทั้งนี้โดยปัจจัยแรก เกิดจากการที่เศรษฐกิจภาพรวมของโลกไม่อยู่ในภาวะที่เติบโตดีนักทำให้กำลังการใช้พลังงานลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยปกติ เมื่อความต้องการน้อยลงราคาก็ลดลง แต่เศรษฐกิจไม่ได้ย่ำแย่ขนาดตอนวิกฤติ และยังไม่ใกล้เคียงพอที่จะทำให้ราคาลดลงได้ขนาดนี้ หากไม่มีปัจจัยอื่นอีก..
ปัจจัยต่อมาที่มีผลเป็นปัจจัยหลักประการหนึ่ง(และอาจในระยะยาว) คือ การที่สหรัฐอเมริการได้เดินหน้าลงทุนโครงการ Shale Oil และ Shale Gas ซึ่งเป็นพลังงานที่ว่ากันว่ามีอยู่อีกมากเพียงแต่ต้องใช้กรรมวิธีการขุดเจาะหรือนำมาใช้ต่างจากเดิม (หากต้องการรายละเอียดโปรดศึกษาเพิ่มเติม) ซึ่งหมายความว่า Supply พลังงานหรือ ทรัพยากรด้านพลังงานยังมีเหลือเฟือในอนาคต ดังนั้นแล้วราคาน้ำมันจึงลดลงมาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้
และนั่นก็อาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ OPEC เองมองไปในสองมุมว่า OPEC เองไม่ใช่ผู้ที่อาจควบคุมราคาตลาดโลกได้อย่างแต่ก่อนจึงปล่อยให้เป็นไปตามกลไกปกติของตลาด และส่วนหนึ่งนี่อาจเป็นการจงใจตัดกำลังจาก OPEC ที่ต้องการยืนระยะราคาที่ถูกลง หากใครต้องการดำเนินโครงการพลังงานใดๆ ก็ต้องลงทุนสูงกว่าผลตอบแทนที่ได้ หรือพูดง่ายๆ เป็นการตัดกำลังโครงการของอเมริกาให้ชะลอตัวลงเพื่อการแข่งขัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ค้าแข่งขันกันยิ่งรุนแรง ผลประโยชน์มักตกสู่ผู้บริโภคเสมอ (ยกเว้นผู้ลงทุนในด้านพลังงาน ฮ่า) ส่วนตัวแล้วราคาน้ำมันคงจะอยู่ในราคาต่ำไปอีก 2-3 ไตรมาส เพราะโดยปกติแล้วราคาน้ำมันใน ไตรมาส 4 หรือช่วงนี้นั้นมักจะเป็นช่วงที่มีการใช้น้ำมันสูงเพราะเป็น ฤดูหนาว ราคาหลายปีหลัง โดยปกติจะเกิน 100 เหรียญ ตอน ณ วันนี้อยู่ที่เพียง 69 เหรียญ ลดลงกว่า 30% นี่หมายถึงโดยสถานการณ์ปกติหลังจากไตรมาส 1 ไปราคาน้ำมันมักจะลดลงอยู่แล้ว
สุดท้ายปัจจัยหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้คือ การหันมาใช้พลังงานสะอาด พลังงานลม แสงอาทิตย์ คือแนวโน้มการลงทุนที่มีอนาคตของหลายประเทศ และเป็นรูปเป็นร่างทำกันได้อย่างจริงจังมากกว่าในช่วงแรกๆ ราว 10 กว่าปีก่อน ซึ่งเป็นพลังงานที่ยากที่จะหมดไปจริงๆ ประกอบกับมาตรการการลดพลังงานที่เห็นผลมากขึ้นทุกวัน เทคโนโลยีทำให้เหล่าเครื่องใช้ไฟฟ้า กินไฟน้อยลงมากขึ้นๆ หลอดไฟ ทีวี และอีกหลายๆ อย่าง กินไฟน้อยลงกว่ายุคก่อน เกินครึ่ง สิ่งเหล่านี้คือปัจจัยที่ทำให้รู้สึกดีอย่างแท้จริงสำหรับผม และเมื่อน้ำมันถูกลง คงมีแต่นักลงทุนเท่านั้นที่ยิ้มไม่ออก..