ดาวน์โหลด Free ฟรี e-book เรื่อง พระอะไรใส่กางเกงสี่ส่วนได้ที่นี่
ชื่อเรื่อง : พระอะไรใส่กางเกงสี่ส่วน
ผู้แต่ง : Sirichaiwatt
ประเภท : ธรรมะ, ขำขัน, ฟรี e-book
รายละเอียด : หนังสือธรรมะ ที่พระไม่ได้เขียน
หมายให้คนธรรมดาได้เรียน (รู้)
ให้อยู่ดูโลกอย่างเข้าใจ
ให้ค้นหาได้ทุกคำตอบ
ให้เจอบุญชาตินี้
ให้พ้นหนีชาติหน้า
ให้เป็นไปอย่างคนธรรมดา
ที่ไม่ต้องไปถึงคำว่า เป็นพระ เอย..
จำนวนหน้า : 95
ตัวอย่าง บทนำ :
หนังสือเล่มนี้เป็นอานิสงส์จากการที่ฉัน ปิดวาจาปลีกวิเวก วิปัสสนา อยู่กับธรรมะเป็นระยะหนึ่ง จึงเกิดบันดาลใจให้ฉันเขียนขึ้นมา ครั้งเมื่อเขียนเสร็จยังไม่สมบูรณ์ดีนักหลังจากออกจากปลีกวิเวกมันก็มีเพื่อนฉันมันว่า ฉันนี่อาร์ตอีกแล้ว เป็นฮิปส์เตอร์ Hipster อีกแล้ว ฉันก็เลยเกิดปิ๊งมาว่า นี่มันหนังสือธรรมะประสาคนฮิปส์(Hipster) ชอบใจจึงเอามาโปรย แต่ฉันก็ไม่ได้คิดว่ามันเป็นฮิปส์อะไรหรอก เจตนาแรกฉันก็แค่อยากเล่าให้เธอฟัง
ก่อนอื่นอย่าประสาอะไรกับภาษาของหนังสือเล่มนี้นักและฉันเชื่อว่าโดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่มีเล่มนี้อยู่ในมือคือผู้ที่ต้องการเกิดพุทธิปัญญาคือ เรียนรู้เข้าใจสิ่งใดอย่างไตร่ตรอง กระนั้นหากเป็นผู้ยึดแน่นหรือยึดติดนี้คงมิใช่แนวทางการเกิดปัญญาโดยแท้ ทั้งนี้โดยเจตจำนงประการหนึ่ง ฉันคิดว่า มีหลายๆ คนที่เคยสงสัย คลางแคลงใจในศาสนาตัวเอง บ้างก็เปลี่ยนใจไปลองศาสนาอื่น แนวทางอื่น ความเชื่ออื่น บ้างก็เอาไปคิดจนพบว่า ไม่มีศาสนาไหนเหมาะกับตน จึงเป็นคนไม่มีศาสนา หรือนับถือศาสนาหนึ่งไปอย่างแกนๆ และด้วยเพราะ แต่ละศาสนา เราก็เกิดมาโดนแปะหน้าว่านับถือศาสนานั้นนี้มาตามผู้กำเนิดประหนึ่งว่ามันถ่ายทอดมาทางพันธุกรรม มิหนำซ้ำที่ร้ายกว่ามันกลายเป็นว่า บางคนเกิดมาก็มีศัตรูอยู่ต่างศาสนาทันที เพียงเพราะเขาเกิดมาจากตรงนั้น ประเทศนั้น ครอบครัวนั้น ถามว่า พระเจ้าแห่งศาสนาของพวกเราท่านต้องการสร้างเรามาเป็นนักฆ่าแห่งศาสนางั้นหรือ ฉันว่ามันแปลกๆ นะ ถ้าพระเจ้าจะสอนเราอย่างหนึ่ง แต่ให้ทำตัวอีกอย่าง ถึงกระนั้นฉันก็ไม่อยากตัดสินสรุปอะไรแค่ลองคิดว่าควรเปิดใจใหม่อีกสักครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ดี เธอคิดเหมือนฉันไหมว่า จริงๆ แล้วเราน่าจะมีหลักสูตรให้ศึกษาไปเลยตั้งแต่จากประถม มัธยมต้น แล้วเลือกกันได้เอง สมมติเอาว่าตอนสักอายุ 15 ก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกได้ว่าใครอยากเข้า อยากนับถือศาสนาไหนจึงค่อยแปะลงบัตรประชาชนเป็นฐานข้อมูล ก็ว่ากันไป ฉันว่าอย่างน้อยหากเขาได้เลือกเองแล้วด้วยความเคารพ ความศรัทธา และการพยายาม “เข้าใจที่ถูกต้อง” ของศาสนาที่เขาหรือเราๆ ได้เลือก น่าจะดีกว่าทุกวันนี้ ไม่เว้นแม้แต่ พุทธศาสนา ที่ฉันเองก็ต้องรับเพราะเกิดมาอยู่บนภูมิภาคนี้ ประเทศนี้ที่เขาประกาศโทงๆ อยู่ว่าคือศาสนาประจำชาติ
ก็นั่นแหละ.. ฉันคงเกิดมามีปมพอสมควร จึงชอบเรียกร้องความสนใจด้วยความแตกต่าง โดยอย่างยิ่งทางความคิดตั้งแต่ครั้งยังตัวเล็กตัวน้อย ว่าทำไมต้องแบบนี้ล่ะ แบบนั้นล่ะ ฉันเก็บความสงสัยมาตลอด โดยเริ่มจากวัยเด็กในตอนเข้าแถวเคารพธงชาติครั้งเรียนโรงเรียนประถม ทุกเช้าตรู่หลังจากร้องเพลงชาติ ดูธงขึ้นทุกวันกันอย่างงงๆ ว่าจะต้องคอยเอาลงเอาขึ้นทำไม หลังจากนั้นก็มีการสวดมนต์ ตรงนี้ล่ะ ฉันแปลกใจก็ตรงที่เพื่อนฉัน 2-3 คนไม่ยอมยกมือสวดมนต์ ทั้งๆ ที่พวกเราสวดมนต์กันออกจะเสียงดังอื้ออึง.. ทำไมฉันไม่สวดบ้างไม่ได้ล่ะ ครูบอกว่าเพราะเขานับถือศาสนาอื่น ฉันจำได้นะ ฉันถามคำถามนี้กับครู ในตอน ป.3 หรือ ป.4 ฉันไม่แน่ใจ “แล้วผมนับถือศาสนาอื่นบ้างได้ไหม” คำตอบก็ง่ายๆ จากครู.. “ที่บ้านเรานับถืออะไร เราก็ต้องนับถือตามนั้น..”
ฉันก็ยอมเข้าใจ.. เอ.. แล้วบ้านเพื่อนฉันเขาเป็นคนไทย เขาไปเปลี่ยนตอนไหนกัน? ใครเปลี่ยนคนแรก? ฉันเป็นคนแรกของครอบครัวที่เปลี่ยนได้ไหม? ลูกฉัน หลานฉันจะได้เปลี่ยนตาม แต่คำถามมันก็สาบสูญไปและจบลงประสาเด็กๆ เท่านั้นแหละ
ทั้งหมดนั่น ฉันเชื่อว่าเหตุผลหนึ่ง ที่ใครคนหนึ่งรู้สึกว่าศาสนาไม่เคยช่วยอะไร เพราะมันเต็มไปด้วยความแคลงใจ ไม่ว่าจะเด็ก ไม่ว่าผู้ใหญ่ คำถามที่ไร้คำตอบ ผู้ตอบก็ไม่ได้เข้าใจ บ้างตอบแบบเอาตัวไม่รอด และบางทีแม้ว่าผู้ตอบที่ดีมีอยู่ แต่ผู้ฟังก็ยังไปไม่ถึงความจริงของคำตอบนั้น รวมๆ แล้วฉันก็ไม่แน่ใจว่ามันยากที่ฝ่ายไหน “ผู้ถาม” หรือ “ผู้ตอบ” ถ้ายกเรื่อง ผู้ถามกับผู้ตอบออกไปก่อน ค่อยๆ พิจารณาดูฉันว่า “คำตอบ” มันมี ฉันจะลองเล่าให้เธอฟัง
ดาวน์โหลด e-book ธรรมะ (Download) : เลือกตามแหล่งรายชื่อด้านล่าง
พระอะไรใส่กางเกงสี่ส่วน (Sirichaiwatt)
ดาวน์โหลดคลิ๊ก>> Ookbee, AIS bookstore, Mebmarket, Ebooks.in,th, Hytexts
ขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า e-book ธรรมะ เล่มนี้ จะมีประโยชน์และให้ความบันเทิงแก่ทุกท่านไม่มากก็น้อย และขอให้ท่าติดตามผลงานของเราต่อๆ ไป
