คำคมดีๆ คิดมาให้คิดไป รวม 3

10. ต่อให้ล้มเหลวกี่ครั้ง ก็ไม่จำเป็นต้องแคร์คำเย้ยหยัน จากพวกที่ไม่เคยกล้า แม้แต่คิดจะทำอะไร

การเดินหกล้ม อาจเจ็บขา เจ็บมือ เจ็บเข่า แต่ที่คนเราเจ็บมากกว่าคือ ลมปากที่ซ้ำเติม เยาะเย้ย ถากถาง ถ้าเราใจไม่บางเกินไปมันก็แค่ลุกขึ้นเดินใหม่ให้พ้นไป ไม่นานทุกคนก็ลืม..

09. เราชอบมัวแต่เสียดายอดีต มากกว่าคิดถึงปัจจุบัน ทั้งที่มันเป็นเรื่องของอนาคต

อาจด้วยอารมณ์ ความรู้สึก หรือหลายสิ่งหลายอย่างที่ค้างคาใจ ในหลาย ๆ เรื่องที่เกิดขึ้น แม้กระทั่งจบไปแล้ว เราก็ยังวนเวียน อยากลับไปแก้ไข “อดีต” เหล่านั้น ที่บางทีแม้แก้ไขได้ มันก็ไม่ได้ทำให้อนาคตเราดีขึ้น แต่การวนเวียนนั้นแหละ กำลังทำลายปัจจุบัน อันมีความหมายต่ออนาคตได้ไม่ยากเลย

08. บางครั้งเรากลับสะดุดซ้ำ ๆ กับสิ่งที่มันผ่านไปแล้ว

จะให้โทษความทรงจำ มันก็คงไม่ได้ เราจำไม่ได้ทุกอย่าง จะบังคับจำ บังคับลืม ก็ยากเย็นเช่น แต่ ความจำ กับ ความคิด มันก็แยกกัน จำได้ ลืมได้ ไม่สำคัญ คิดจะไปต่อไหม คิดจะเดินหน้าไหม? ถ้าคิดก็ควรจะรู้ว่าต้องทำยังไง ไม่ให้สะดุดซ้ำเดิม..

07. ทำอะไรแบบเดิม ๆ อย่าคาดหวังผลลัพธ์ใหม่ ๆ

อาจเพราะมีความคาดหวัง ความหวังนั้นเป็นเรื่องที่ดีทำให้มีพลังใจได้ แต่หากไม่ใช้ความคิด ไม่พัฒนา ความหวังนั้นมันคงกลายเป็น ลมแล้ง จะคาดหวังอย่างเดียวไปเรื่อย ๆ โดยไม่เปลี่ยนอะไรเลยคงไม่ได้

06. เรานี้จะมีทั้งมิตรสหาย และมิตรกระหาย

ดังคำว่า มีแต่เพื่อนไม่มีพวก ยามลำบากไร้คนช่วยเหลือ ยามมีสุขสบาย เพื่อนกระหายที่จะคบค้าสมาคม..

05. ที่บอกไม่ได้ทำเพื่อเงิน แต่ต้องทนทำ
คงว่างมากใช่ไหม
ถ้าบอกทำด้วยใจ แต่บ่นท้อ เหนื่อย
แสดงว่าทำด้วย ใจ..น้อย ใช่ไหม
ถามตัวเองใหม่ให้แน่ดูอีกที

อันที่จริงแล้วเราต้องแยกให้ได้ระหว่างเรื่องที่ทำด้วยใจ กับเรื่องที่ทำเพื่อเงิน เพราะเราล้วนยังต้องทำมาหากินเพื่อยังชีพ แต่เมื่อใดเราเอาสองสิ่งนี้มาปนรวมกันมากไป เหมือนจะทำด้วยใจแต่ได้เงินน้อยก็แอบรู้สึกไม่ดี และแน่นอนว่าทำอะไรเพียงเพื่อเงินก็คงดีไม่ได้เท่าไหร่นัก อย่างไรก็ต้องถามตอบตัวเองให้แน่ใจในสิ่งที่ทำอยู่แต่ละช่วงเวลา..

04. อยากสำเร็จต้องไม่เปลี่ยนแปลงเป้าหมาย แต่ที่มันไม่ไปไหน เพราะไม่รู้จักเปลี่ยนวิธีการ

หลายคนก็สงสัยว่าที่สุดแล้ว ความมุ่งมั่นพยายามนั้นจำเป็นแน่หรือในความสำเร็จ เพราะสู้อดทนมาตั้งนานทำไมยังไม่ใกล้เป้าหมายเสียที เมื่อท้อก็ทำให้หนีไปหาเป้าหมายที่ง่ายกว่า ใกล้กว่า แต่ว่าจุดหนึ่งก็ระลึกได้ว่ามันไม่ใช่เป้าหมายที่ต้องการอยู่ดี ใช่ว่าจะเปลี่ยนเป้าหมายกันไม่ได้แต่อย่างน้อยควรทบทวนวิธีการให้ดีเสียก่อน

03. ได้ลองแม้เพียงครู่ จะได้รู้มากกว่า ได้มอง แม้ยาวนาน

จะทำดีไหมนะ? จะเริ่มดีไหมนะ ทำสิ่งนั้น สิ่งนี้ดีไหม? การลองศึกษาดูก่อนเป็นเรื่องดี การพินิจพิจารณาก็เป็นเรื่องที่รอบคอบ แต่บางครั้งการลองเริ่มต้นเลย การลงมือทำเลย โดยไม่ต้องทุ่มทั้งตัว เพียงได้ทดลองดู ก็จะทำให้ได้รู้อะไรมากกว่า ชัดเจนกว่าการแค่มัวแต่เฝ้ามอง…

02. อย่าปล่อยให้อะไร ๆ ก็เป็นเรื่องของอนาคต เพราะสิ่งที่กำหนด คือวันนี้

หลายคนรู้ดีว่าอนาคตต้องวางแผน เพราะไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อใดที่เราคิดเพียงว่า “ยังมีเวลา” หรือ “เอาไว้ก่อน” นั่นก็หมายความว่าเราได้ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตกำหนดเราแล้ว

01. คนที่สำเร็จไม่ว่าด้านใด ส่วนใหญ่ต้องผ่านด่านแรกให้ได้ คือ “ลมปาก” ถ้ายังผ่านไม่ได้ อย่าหมายจะสำเร็จ

“เราอยากลองทำสิ่งนั้น” ถ้าเป็นคำพูดประมาณนี้ก่อนที่เราจะทำอะไร เสียงสะท้อนที่ได้มักจะเป็น จะดีหรือ? แน่ใจหรือ? อย่าทำเลย? เธอทำไม่ได้หรอก.. ทั้งที่นี่แค่เพียงเริ่มต้น หากทำไปแล้วล้มเหลว หรือผิดพลาดขึ้นมาคำว่า “เห็นไหม บอกแล้ว เตือนแล้ว” จะตามมาอีกทันที คำพูดนั้นนอกจากจะขัดขวางการเริ่มต้นแล้ว ยังมีบั่นทอนการลุกขึ้นสู้อีกด้วย

ไม่มีความสำเร็จใด ได้มาง่ายและราบเรียบ ย่อมมีล้มลุกคลุกคลานกันบ้าง แต่หากผ่านลมปากคล้ายดังที่บอกไม่ได้ เราคงไม่มีทางเริ่มต้น หรือทำไปไม่นานก็คงหมดแรง หมดใจไม่ทำอะไรต่อ ล้มเหลวล้มเลิกกันง่าย ๆ ได้ทันที