Site icon Sirichaiwatt

คำคมดีๆ คิดมาให้คิดไป รวม 9

รวบรวม คำคมดีๆ ครั้งที่ 9 จาก Sirichaiwatt’s Facebook Fanpageเพื่อเป็นแง่คิด เตือนตน และแบ่งปัน อันหวังว่าจะมีประโยชน์ต่อผู้คนที่สนใจ จากผู้เขียน : คำคมที่เผยแพร่ผู้เขียนเขียนขึ้นเอง ให้เครดิตได้เลย หากพบเห็นจากที่อื่นโดยไม่มีเครดิต เขาลอกไป มิใช่เราลอกเขา

คำคม คิดมาให้คิดไป รวม 9

15. คนสำเร็จมัก คุย/คิด เรื่องที่ตัวเองทำ
คนไม่สำเร็จมัก คุย/คิด เรื่องที่คนอื่นทำ


ถ้าเราใช้เวลาส่วนใหญ่ คุย หรือ คิด แต่ในสิ่งที่เราทำ นั่นหมายความว่าเราค่อนข้างใส่ใจ และสนใจอยู่กับสิ่งนั้น โอกาสที่จะสำเร็จ หรือทำได้ดี ย่อมมีมาก แม้จะไม่ใช่สิ่งที่รักหรือเป็นเป้าหมาย มันก็น่ากลายเป็นดีขึ้นได้เพราะใส่ใจ แต่ในทางตรงข้าม หากเรายิ่งหนีห่าง ใช้เวลา คุย หรือ คิด แต่สิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรา สิ่งเหล่านั้นจะส่งผลกับสิ่งที่เราทำอยู่ได้อย่างไรและมันคงยิ่งต้องใช้เวลา เพื่อความความสำเร็จต่อสิ่งนั้น


14. ความจริงใจ (ต่อใคร) ไม่เคยการันตีผลลัพธ์
ได้เท่ากับ ทำอะไร (เพื่อตัวเอง) อย่างจริงจัง


นอกจากตัวเราแล้ว ล้วนเป็น “คนอื่น” ทั้งสิ้น ซึ่งในคนอื่นนั้น ย่อมมีทั้งปัจจัยอื่น ความคิดอื่น ความต้องการอื่น และ ความสำคัญอื่น การจริงใจต่อคนอื่นนั้นเป็นเรื่องที่ดี หากทำเพื่อความสบายใจเราเป็นที่ตั้ง แต่หากหวังผลลัพธ์ใดกลับมานั้น ต้องไม่ลืมว่า นี่คือการกระทำต่อ “คนอื่น” ย่อมไม่มีวันเหมือนทำเพื่อ “ตัวเอง”


13. อย่าเสียเวลา เพื่อหาข้ออ้างให้กับความผิดพลาด
จงใช้เวลา หาทางแก้ไข ไปสู่ความสำเร็จ


เพราะวันหนึ่งคุณจะเข้าใจว่า เวลาสำคัญแค่ไหน หลายคนใช้ชีวิตแบบกลัวผิดพลาด กลัวล้มเหลวมากเกินไป จนเมื่อพลาดหรือแม้แต่กำลังจะพลาด ก็พยายามที่จะหาวิธี หาข้ออ้างว่า ที่ผิดพลาดเป็นเพราะสิ่งนั้น สิ่งนี้ ไม่ใช่ที่ตัวเองโดยตรง ซึ่งแท้จริงแล้ว มันไม่จำเป็นเลย..


12. บ่นเหนื่อยกับชีวิต ที่เปลี่ยนแปลงบางสิ่งไม่ได้
แล้วกล้าไหม?
ที่จะตัดสิ่งนั้นออกไปเลย
หายเหนื่อยทันที!


กล้าไหม? แล้วจะได้ไม่ต้องบ่น และหายเหนื่อย.. หรือบางทีต้องถามตัวเองว่า จะบ่นไปให้ได้อะไร..


11. อย่าจริงจัง ในทุกความสัมพันธ์
เพราะเราไม่มีวันสำคัญ ต่อทุกคน


หลายคนหลงไปในความ “พยายาม” ที่จะแสดงความจริงใจ หรือจริงจัง ต่อทุกคน คล้ายที่เราพบได้ในชีวิตวัยรุ่น เหตุเพียงเพราะแท้จริงแล้ว อาจเป็นคนเหงา คนไม่มั่นใจ เมื่อไม่มีเพื่อน หรือใครรายล้อม รอบตัว จึงพยายามทำหลาย ๆ อย่างเพื่อดึงคนเหล่านั้นไว้ ถ้าเราเป็นคนเช่นนี้ ปรับเปลี่ยนวิธีคิด มองให้ดี ๆ ทุกคนย่อมมีชีวิตของตัวเอง มีกรอบของตัวเอง เราก็เช่นกัน ที่ไม่อาจจะอยู่ร่วมทางไปกับใครได้ทุกเรื่องตลอดเวลา แม้กระทั่งคู่ชีวิตกันก็ตาม


10. บางอย่างต้องคิดให้ดี
ก่อน “ลงมือทำ”
บางอย่างต้องรีบ “ลงมือทำ”
อย่ามัวแต่คิด
แต่ไม่มีอะไรผิด
เท่าไม่เคย “ลงมือทำ”


บางครั้งเราก็มีคำถามว่า คิดก่อนทำ หรือทำก่อนคิด นั้นดีกว่ากัน คำตอบอาจขึ้นอยู่กับแต่ละบริบทว่า ทำอะไร? แต่ไม่ว่าจะคิดก่อนทำ หรือทำก่อนคิด ที่ไม่ดีแน่ๆ คือไม่ทำอะไรสักที..


09. หลายเรื่องในชีวิต เดินหน้าด้วยคำว่า พอ ไม่ใช่คำว่า ไปต่อ เสมอไป


ความพยายาม กับ ความดันทุรัง บางครั้งก็มีเส้นบาง ๆ เพราะความพยายามเป็นสิ่งที่ดี แต่การดันทุรัง ย่อมไม่ดี..

ที่จริงก็เป็นเรื่องที่แยกแยะยาก เพราะมันก็คงต้องดูกันก่อนด้วยว่า เป็นเรื่องใดในชีวิต ซึ่งถ้าจะพิจารณากันง่าย ๆ ก็ต้องตรองดูว่า มันก้าวหน้าบ้างไหม หรือมีแต่อยู่กับที่ และถ้านับวันถอยหลังนั้น นั่น ก็ยิ่งควร พอ..


08. อยากรู้ ออกไปเรียน
อยากได้ ออกไปหา
อยากดูดี ออกไปทำ
อยากมีสุข ออกไปจากทุกข์
อยู่กับที่ ไม่ได้อะไร


หลายคนรู้อยู่นะ ว่าตัวเองต้องการอะไร แต่ไม่เริ่มทำ…


07. อย่าดิ้นรนบ่นว่า “เบื่อสิ่งที่เป็นอยู่” โดยไม่เคยดูว่าพอใจในสิ่งไหน
เพราะดิ้นรนพ้นออกไป ไม่นานเท่าไหร่ก็ “เบื่อสิ่งที่เป็นอยู่”


หลายคนไม่พอใจในทุกวันนี้ของตนเอง ซึ่งย่อมไม่แปลกอะไรที่เราจะรู้สึกเช่นนั้น แต่สิ่งที่สำคัญกว่าความไม่พอใจในทุกวันนี้คือ “แล้วพอใจในตรงไหน?”

ซึ่งหากไม่รู้ว่าเราชอบ เรารัก เรามีเป้าหมายชีวิตในสิ่งใด เราก็เพียงแค่จะย้ายจากสิ่งที่เบื่อ สิ่งหนึ่งไปยังสิ่งที่ ไม่รู้ว่าจะเบื่ออีกเมื่อไหร่เท่านั้นเอง สุดท้ายก็คล้ายว่ามัน เท่าเดิม หรือเหมือนเดิม.. ไม่มีอะไรดีขึ้น


06. เราจะรู้ว่า เวลาผ่านไปไว ก็ต่อเมื่อบิลอะไรๆ มาอีกแล้ว


นี่มันคำคมเหรอ ดูตลกชะมัด แต่ถ้าตระหนัก ก็ไม่ตลกเลย (ทำนองเพลงพี่อ่ำมา.. อ้าวเกิดไม่ทันกันหรือ) คนเราจะทุกข์หนักได้จากเพียง 2 สาเหตุใหญ่ คือ เงิน และ ความสัมพันธ์ ลองคิดตามดู..

จะของหาย บ้านไฟไหม้ ตกงาน ปลายทางมันก็คือเงิน ถ้ามีมหาศาล เรื่องเหล่านั้นคงไม่รู้สึกอะไร รองเท้าเตะหาย กับ Balenciaga (แท้ด้วยนะ) หาย อย่างหลังคงทุกข์มากกว่า ทั้ง ๆ ที่คู่แรกอาจใช้งานและอยู่กับมันบ่อยกว่า.. (อย่าย้อนว่ารองเท้าแตะ Hermes นะ ตีตาย)

คำคมดีๆ นะ ไม่ใช่เรื่องตลก! ความสัมพันธ์ก็เช่นกันที่เป็นส่วนทำให้ทุกข์ แต่ไม่พูดถึงตรงนี้

วินัยทางการเงิน เป็นสิ่งสำคัญ สำคัญมากจริง ๆ ย้อนไปหลายปี(ยังไม่แก่นักหรอกน่า) สมัยที่ยังทำงานประจำเงินเดือนขั้นต่ำ ใน office เดียวกัน ผมน่าจะเงินเดือนน้อยสุด เพราะแทบไม่เคยทำโอที เหมือนคนอื่น แต่ทว่า ผมเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ในห้องนั้น เหล่านี้เพราะวินัยทางการเงินล้วน ๆ เล่าเท่านี้พอ..

คำถามส่งท้ายมีอยู่ว่า ถ้าเวลาผ่านไป คุณยังกังวล เบื่อหน่าย สะดุ้งได้กับภาวะสิ้นเดือน เช่นนี้ต่อไป 1 ปี, 3 ปี, 10 ปี ผมว่านี่ไม่ตลกแล้วล่ะ..


05. เวลา ก็ไม่ใช่เครื่องการันตี ความสัมพันธ์


ไม่มีอะไรคงเดิม และ เวลา ด้วยซ้ำ ทำให้หลายสิ่งเปลี่ยนไป
ไม่ใช่ แค่เวลา แต่ว่าไม่มีอะไรเลยการันตี ความสัมพันธ์ได้ ทำให้ดีที่สุด แล้วปล่อยวาง..


04. เงียบบ้าง.. ลืมบ้าง..
ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์


ยิ่งกับคนใกล้ตัว คนที่เจอกันบ่อย ๆ ไม่ว่าจะที่บ้าน ที่ทำงาน เหตุการณ์ไม่เข้าหู เข้าตา ย่อมมีมาให้เห็นบ่อย ด้วยไม่มีใครถูกใจใครได้ทุกเรื่อง และหลายครั้ง หากไตร่ตรองมันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย การตำหนิ บ่น ติติง มากไป ก็ไม่สบายใจทั้งสองฝ่าย และการเก็บมาคิด เก็บมาจำเสียหมด รังแต่จะก่อตัวเป็นเรื่องใหญ่รอวันทำลายสัมพันธ์..


03. ต้นทุนไม่เท่ากัน มันพออ้างได้
ความพยายามไม่เท่ากัน มันอ้างไม่ได้


ความพยายาม เป็นเรื่องที่แต่ละคนมีไม่เท่ากัน ในการทำเรื่องหนึ่ง ซึ่งมันย่อมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของเรื่องนั้น

เมื่อเรื่องใดก็ตามที่อยากให้สำเร็จ, ดีขึ้น, ก้าวหน้า ล้วนล้มเหลว ล้มเลิก เพราะไม่พยายามต่อ โดยอาจอ้างสาเหตุอันหลากหลาย เช่น ต้นทุนชีวิต ไม่เท่ากัน แน่นอนว่า มันหมายถึงต้อง พยายามมากกว่า หากเอาตัวเองไปเปรียบกับสิ่งที่ คนที่ มีต้นทุนมาดีกว่าในเรื่องนั้นๆ

หากเปิดใจมองไปกว้าง จริงๆ แล้วจะพบว่า มีหลายคนที่ต้นทุนก็ไม่ได้ต่างกัน หากแต่เขานั้นพยายามมากกว่า และสำเร็จกว่า ดีกว่า ก้าวหน้ากว่าคนที่มีต้นทุนดีกว่าเขาได้

เมื่อคิดตรงนี้ก็อาจจะหาข้ออ้างอื่นต่อไปที่ไม่ได้เหมือนเขา.. หรือบางทีแค่เรา พยายามไม่เคยพอ ท้อเอาง่ายๆ ไปเอง..


02. ความหวังทำให้มีกำลัง แต่..
คาดหวังรังแต่เสียใจ


ก็คล้ายกับคำว่า จงมีความหวัง แต่อย่างคาดหวัง เพราะ “หวัง” ในที่นี้นั้น มันแตกต่างกัน
การใช้ชีวิตที่มีเป้าหมายนั้น ก็คือต้องมี “ความหวัง” อยู่บางอย่างบางประการเพื่อให้ถึงจุดนั้น หากมีมากพอจะดลให้ต้องลงมือทำ และหากรู้ว่าทำเพื่ออะไร ย่อมต้องมีกำลัง แรงใจที่จะทำ ด้วย “หวัง” ว่าจะได้อะไรที่เป็นเป้าหมายตรงนั้นนั่นเอง

แต่คาดหวัง นั้น อาจไม่ใช่เป็นเป้าหมายด้วยซ้ำ เป็นเพียง “ชั่วคราวของความต้องการ” ก็เป็นได้ เป็นเพียงปมบางประการที่ขาดหายก็ได้เหมือนกัน

หากสรุปชัด คือ เราไม่ค่อยจะมี ความหวัง กับ “คน” แต่เรามัก คาดหวัง กับ “คน” สิ่งนี้ก็น่าจะอธิบายชัดพอว่า หาก “ผิดหวัง” กับ “หวัง” ไหน จะเสียใจมาก และเสียใจได้บ่อย กว่ากัน..


01. หลายสิ่งในชีวิต
เราจำเป็นต้องยอมรับ
แต่ไม่จำเป็นต้องยอมแพ้


ยอมรับกับยอมแพ้เป็นคนละเรื่องกัน การยอมรับในหลายๆ สิ่งคือการนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงเพื่อไปข้างหน้าที่ถูก, ดี, ง่าย กว่าเดิม

แต่สำหรับการยอมแพ้ ในที่นี้ คือการยอมรับที่จะหยุด ถอย หรือล้มเลิกในบางสิ่งบางอย่าง

หรือ บางทีก็ต้องยอมรับในบางสิ่ง ที่เสมือนต้องแพ้ ต้องเลิก แต่นั่นก็หมายความว่า เราจะเริ่มสิ่งใหม่ โอกาสใหม่ หรือเลือกทางใหม่

อะไรที่เหมือนเดิมอาจไม่ไปไหน หากเปลี่ยนแปลงได้มีโอกาสที่จะดีขึ้น การยอมรับ จึงไม่จำเป็นต้องหมายความว่า ยอมแพ้.. และไม่ควรยอมแพ้ บางทีแค่วันนี้ เราไม่ได้ยืนอยู่จุดที่ดีที่สุดเท่านั้นเอง


ดูคำคมเพิ่มเติมได้ที่ หมวดหมู่ คำคมดี ๆ คิดมา ให้คิดไป 
Exit mobile version