หากเปรียบชีวิตดั่งบทละคร และสมมติว่าเราเขียนบทชีวิตให้ตัวเองได้ เราจะเขียนมันออกมาเป็นเช่นไร? ซึ่งไม่ว่าจะปรุงแต่งไปในแนวทางใด เชื่อว่าเราคงเขียนให้ตัวเองเป็น พระเอก, นางเอก ตัวเอกในบทละครนั้น คงไม่มีใครอยากเป็นจอมวายร้าย, นางอิจฉา หรือตัวประกอบของละครเรื่องนี้
แต่เรารู้ดีว่ามันทำไม่ได้ บทละครของเราล้วนมีแต่ความซับซ้อน ตัวประกอบอื่นที่คาดเดาไม่ได้ ฉากที่ไม่ค่อยสวยงาม บทพูดกับสถานการณ์ที่ไม่เคยควบคุมได้เลย และนั่นคือชีวิตจริง… ซึ่งเราก็รู้กันดีอยู่แล้วมิใช่หรือ ทำไมไม่ลองยอมรับมันดู?
ยามทุกข์ยากเราหลายคนมักตั้งคำถามหนัก ๆ กับตัวเองอย่างเคียดแค้นว่า “ทำไมชีวิตต้องเป็น(เจอ) อะไรแบบนี้(วะ)” หรือในเวลาที่เราถึงจุดย่ำแย่มาก ๆ ก็พาลให้คิดไปไกลว่า ชีวิตนี้ถูกลิขิต หรือบทชีวิตเราคงถูกกำหนดไว้แล้วว่าให้ต้อง “เฮงซวย, ดีไม่ได้, เป็นตัวอับโชค“ อะไรก็ตาม นั่นก็เป็นมุมมองเพียงภาวะหนึ่ง…
หากลองคิดว่านี่ ”แค่บทละครตอนหนึ่งของชีวิต“ ทุกอย่างอาจเบาบางขึ้น เชื่อว่าถ้าค่อย ๆ ทบทวนเราล้วนเคยรับบทพระเอกนางเอกในบางช่วงบางตอน มีช่วงเวลาดี ๆ ทำสิ่งหนึ่งหรือพูดสิ่งหนึ่งดี ๆ ให้กับใครบางคน และเราต้องเคยเป็นตัวร้าย โดยที่จะรู้ตัวหรือไม่ก็ตามในบทชีวิตคนอื่น มุมหนึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราเคยเต็มใจที่จะรับบทนั้น แค่เพียงตำหนิ นินทา ต่อว่าใครสักคนอยู่ บทเช่นนี้คงไม่ใช่ตัวดีในละคร ยิ่งระเบิดอารมณ์ทำร้ายร่างกาย หรือจิตใจใคร บทเหล่านั้นคงไม่ใช่พระเอกนางเอกเป็นแน่ อีกทั้งเราล้วนเคยเป็นเพียงตัวประกอบต่อชีวิตใครอีกหลายคน ที่เพียงผ่านเข้าฉากมา และจากไป…
อีกด้านหนึ่ง แม้ไม่เคยคิดว่าชีวิตเหมือนบทละคร แต่เราหลายคนก็ติดอยู่ในบางบทบาทมากเกินไป เช่น
บทตัวเอกผู้อาภัพ : ใช่สิฉันมันเลว ใครจะเข้าใจทำไมฉันต้องร้าย (แต่ส่วนลึกในใจอยากได้ผลลัพธ์ที่ดี ย้อนแย้งใช่ไหม?)
บทคนดีที่ถูกรังแก : ฉันต้องทำดีต่อไปเพียงหวังชนะใจบางคน พิสูจน์บางอย่าง (คนดีที่อยากเอาชนะ?)
บทผู้ชนะที่จะเอาทุกอย่าง : ฉันทำขนาดนี้ ฉันยอมขนาดนั้น มันควรจะเป็นของฉัน ต้องได้ (ฉันผู้ขาดทุกอย่างและยังมีไม่พอ คนเดียวในโลก)
และโดยรวม หลงคิดลึก ๆ ว่าเราคือพระเอก นางเอกตลอดเวลา ทั้งที่ไม่ใช่…
ไม่ใช่เรื่องราวทั้งหมด…
ประเด็นสำคัญคือ หากเรามองชีวิตเราคือบทละคร ไม่ว่าเมื่อวาน วันนี้ จะดี จะร้าย บางทีมันก็เพียงฉากหนึ่ง เหตุการณ์หนึ่ง ไม่ใช่เรื่องราวทั้งหมด เพราะในละครหลายเรื่อง นางเอกเคยตกยาก, พระเอกเคยเลว, ตัวโกงกลับมาเป็นคนดี, อยู่ดี ๆ มีมหันตภัยเข้ามา, เจ็บตัวทั้งเรื่อง!! แต่นั่นมันแค่หนังตลก และสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ก็มักเกิดแค่ในตอนหนึ่งของบทละคร โดยไม่มีใครรู้จะผลิกผันหรือมันจะจบอย่างไรหากไม่เคยดู… และในชีวิตเราคือละครที่ไม่มีใครเคยดู..
บทละครชีวิต เราเขียนเรื่องราวของเราทั้งหมดไม่ได้ แต่เรามีโอกาสเลือกบทพูด บทแสดงได้ในหลายตอนว่าจะให้ตัวละครเราออกมาแบบไหน และหลายส่วนของชีวิตมันก็เหมือนเพียงละครหนึ่งตอนที่จบไป เริ่มตอนใหม่ได้เสมอ บางอย่างอาจยังคงอยู่ แต่บางสิ่งก็เปลี่ยนไป ฉากใหม่ บทใหม่ ตัวละครหลักหน้าใหม่ ตัวประกอบไม่เหมือนเดิม เหล่านี้ย่อมเคยมีเกิดขึ้นมาในชีวิตเรา ถ้าตราบใดเรายังเข้าใจหรือระลึกได้ว่า ละครเรื่องนี้มันยังไม่จบ…
.