Site icon Sirichaiwatt

ปัญหาของคุณป้ากับรถเมล์

เรื่องเล่า รถเมล์

เป็นเรื่องราว แง่คิด ปัญหาสังคม หรือไม่? ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า ขณะที่ผมนั่งรอรถเมล์ อยู่ที่ป้ายรถเมล์ เป็นปกติทุกวัน มีนักศึกษาสาว นั่งอยู่ข้างๆ และป้าร่างท้วมคนหนึ่งนั่งอยู่ถัดไปพร้อมไม้เท้าข้างๆ ตัว ทำให้เดาได้ว่า แกคงเดินเหินไม่ได้สะดวกนัก..

ฟังบทความนี้ในรูปแบบ Podcast ตามช่องทางเหล่านี้

รถเมล์คันหนึ่งแล่นมาหลังจากรับและถ่ายคนแล้ว กำลังจะเคลื่อนตัวออกจากป้ายไปเพียงนิด หญิงสาวแต่งตัวลักษณะสาวออฟฟิต เธอเพิ่งออกจากซอยมา รีบวิ่งโบกรถเมล์คันดังกล่าวก่อนมันจะเลยไป รถเมล์หยุดรับเธอขึ้นรถก่อนออกตัวไปอีกครั้ง ..

 

“นี่หนู ดูสิ” คุณป้าที่นั่งถัดไปเอ่ยเรียก ทั้งผมและน้องนักศึกษาที่นั่งใกล้ๆ กันหันไปมองเห็นสายตาแกกำลังบ่งบอกว่า แกเรียกน้องนักศึกษาสาวนั่นเอง “หนูเห็น มั้ย ทีสาวๆ นะมันจอดรับ ถ้าอย่างป้านะ โบกที่ป้าย บางทีมันไม่จอด” น้องนักศึกษาหันไปฟังแก คงจะแค่ยิ่มมากกว่าตอบอะไร ผมหันมองไปทางอื่นแต่หูยังคงฟังแกพูด..

“มันเห็นเราเป็นคนแก่ ขึ้นลงช้า มันรอไม่ได้ เวลาก้าวขึ้นไม่ทันไรมันออกรถกระชากซะ โอ้โหยไม่มีน้ำใจเล้ย แล้วแบบนี้นะ มันจะขอแต่ขึ้นราคา แต่บริการไม่พัฒนา” ป้าแกบ่นต่อไปอีก “มันไม่ค่อยอยากรับหรอกนะ คนแก่ๆ กระเป๋าก็ชอบทำเป็นรำคาญนะ ป้าน่ะเป็นเบาหวานตาก็ไม่ดี บางทีเคยขึ้นผิดถูก ถามกระเป๋า ก็ตอบเรายังกับเราขออาศัยขึ้นฟรี..”แกชะงักไปในตอนนี้ ผมแอบคิดในฐานะที่ใช้รถเมล์ประจำ ยอมรับว่า รถเมล์หลายคันไม่ค่อยชอบรับคนแก่ และการบริการส่วนใหญ่ถือว่าแย่ แล้วในตอนนั้นป้าก็พูด หรือเรียกว่าแกบ่นต่อก็ได้

“แต่ก็ไม่ทุกคันหรอก บางคันก็ดีนะ ป้าเคยขึ้นผิดหลงไปไกลกระเป๋าก็ใจดี บอกทางให้ดิบดีว่าป้าเดินไปฝั่งนี้ ต่อสายนี้ จูงป้าลงมาส่ง แต่ก็น้อยนะจะเจอดีๆ..”

“แล้วป้าจะไปไหนแต่เช้าเหรอคะ” น้องนักศึกษาถามกลับแกบ้าง คำถามนี้ผมแอบคิดเช่นกันว่า ในเมื่อป้าอายุก็มาก ตาก็ไม่ดี ขาก็คงเดินเหินไม่สะดวก ทำไมไม่คิดอยู่บ้านจะออกมาระกำลำบากอยู่ทำไมกันนะ สังเกตการแต่งตัวแกแล้ว แกคงไม่ได้ทำงานประจำอะไรที่ไหน เป็นแน่ แต่ผมก็เพียงแต่แอบฟังแกตอบ แล้วคิดไปเรื่อยเปื่อย และยังไม่ได้หันไปมองทำทีเป็นไม่สนใจเช่นเคย แกยังคงบ่นไปตามประสา..

“…นี่แหละนะรัฐบาลก็แก้ปัญหาแบบนี้ไม่ได้ ไม่มาเหลียวมองปัญหาเล็กๆ น้อยแบบนี้หรอกเรามันคนจน ปัญหามันจิ๊บจ๊อย คนรวยเขาไม่ได้มารับรู้เดือดร้อนด้วย ไหนจะมีประท้วงประท้วงก็ใช่ว่าจะแก้อะไรแบบนี้ได้อีกน่ะแหละ..” แกเริ่มบ่นโทษเข้าเรื่อง การบ้านการเมืองในปัจจุบันขณะนั้นแล้วรถสายที่แกจะต้องโดยสารก็มา น้องนักศึกษาคงบอกแก แกรีบลุกคว้าไม้เท้ากะโผลกกะเผลก กว่าจะเดินไปถึง ก็ขึ้นรถเมล์เป็นคนสุดท้าย ทันทีที่ขาอีกข้างแกเหยียบขึ้นบันได ภาพที่เห็นคือรถเมล์ก็กระชากออกตัวไป แกยึดราวบันไดแน่น ก้าวขึ้นไปในรถต่อไป…

ถึงตรงนี้หลายคนคงมองว่านี่เป็นปัญหาคุณภาพชีวิตหรือปัญหาสังคม ซึ่งอาจเป็นปัญหาเล็กๆ สำหรับหลายคน หรือเป็นเพียงส่วนหนึ่งในปัญหาสังคมเมืองหลวงของบ้านเรา..

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเล่าข้ามไปคือ คำตอบที่ป้าแกตอบน้องนักศึกษากับคำถามที่ว่า แกเดินทางไปไหน แกตอบว่า “ไปหาลูก ไปอยู่กับหลานดูแลหลาน คิดถึงลูกหลาน ไปทุกวันแหละ..” คนแก่ๆ ดิ้นรนเดินทางอย่างลำบาก เพื่อไปหาลูกหลาน จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม

แต่แทนที่จะได้ครอบครัวอยู่ใกล้กัน หรือลูกหลานเป็นฝ่ายมาหา..

บางที่คุณป้าที่ลำบาก ไม่ใช่เพราะปัญหาสังคม แต่อาจเพราะ ปัญหาครอบครัวที่ขาดการใส่ใจกันจริงจัง ซึ่งหากครอบครัวป้าใส่ใจอะไรกันมากกว่านี้ ปัญหาสังคม หรือแม้แต่การเมืองในมุมมองป้า คงไม่เป็นปัญหาให้ป้าอีกต่อไป บางทีใครคิดทำการใหญ่วันนี้ ทำใกล้ตัวเราให้ดีหรือยัง..

ย้ายจาก Bloggang เดิม Create Date : 30 มิถุนายน 2551

Exit mobile version