Site icon Sirichaiwatt

อยู่ยังไง เมื่อได้เดือนละ 5 พัน

ณ วันนี้ หลายท่าน คงได้ลงทะเบียนมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบไวรัสโควิท 5 พันบาท 3 เดือน ซึ่งลงทะเบียนอย่างไร จะตรงตามเงื่อนไขแล้วได้เงินหรือไม่ อันนี้ก็ต้องติดตามกันไป สำหรับผมแล้วไม่ได้ลงทะเบียน ไม่ใช่ว่าไม่ได้รับผลกระทบนะครับ เผลอ ๆ รับผลกระทบมากกว่าหลายคน คือ นอกจากแทบไม่มีงานแล้ว ยังต้องมีรายจ่ายเกี่ยวงานอีกด้วย เรียกว่า ติดลบกันไปทีเดียว

แต่สิ่งที่จะมาพูดคุยหรือเรียกว่า แบ่งปันประสบการณ์ คือ “5,000 เนี่ย พอไหม?” หรือจะอยู่ให้รอดกันได้อย่างไร?

ถ้าจะย้อนไปกล่าวว่า มันต้องมีวินัยการเงิน แง่นั้นถูกต้อง แต่ในสถาการณ์เช่นนี้ ความจำเป็นและปัจจัยต่าง ๆ คงไม่ใช่เวลาจะมาเท้าความกันถึงตรงนั้น เชื่อว่าผ่านวิกฤตินี้ไป เราหลายคนคงได้ประสบการณ์ และตระหนักถึงอะไรหลายอย่าง เอาเป็นว่า วันนี้ต้องรอดให้ได้กันก่อน

เพิ่มเติมนิดหนึ่งก็คือ ผมไม่เขียนใด ๆ เกี่ยวกับการเมือง และ เชื่อว่ามีคนหาเช้ากินค่ำ หลายคนลงทะเบียนไม่เป็น ใครช่วยเหลือได้ ก็สละเวลาช่วยสักหน่อยนะครับ เพราะมันเป็นเรื่องปากท้องของหลายคน

มาตรการ 5 พันบาทที่อาจเรียกตามชื่อเว็บลงทะเบียนว่า “เราจะไม่ทิ้งกัน” เป็นมาตรการที่ดีสำหรับตอนนี้ เพราะที่จริงแล้วไม่มีใครไม่ได้รับผลกระทบ แต่การแก้ปัญหาจากภาครัฐ จะดีหรือไม่ “เราก็ต้องช่วยเหลือตัวเองไปด้วย” เสมอ เพราะ 5 พันมันอาจไม่มาก มีคนมองว่ามันไม่ถึงค่าแรงขั้นต่ำ ว่ากันอย่างยุติธรรม เรื่องเงิน ยากที่จะมีคำว่าพอ ต่อให้ได้ 9 พัน มันก็ต้องมีคนบอกว่าน้อยกว่าเงินเดือนตั้งเยอะ มีรายจ่ายตั้งเยอะอีกอยู่ดี นี่คือสิ่งแรกที่ควร คิดและช่วยเหลือตัวเองไปด้วย ใช่ว่าจะหวังแต่ได้ จริงไหมครับ (บางคนก็ได้ 7,500 จากประกันสังคมก็ดีกว่าหน่อย)

5 พัน จะอยู่ยังไง?

เล่าแบบรวบรัดว่า ผมอาจมีความติสท์, อินดี้ ในภาษาที่เขาเรียกกัน คือ ทำอะไรตามแนวคิดตัวเองอยู่พักหนึ่งของการใช้ชีวิต ทุกช่วงของออกจากงาน หรือตกงานด้วยเหตุผลใดก็ตาม จะเลือกไม่ทำอะไร อยู่เฉย ๆ ในที่นี้ไม่ใช่ว่าไม่ทำอะไรเลยนะครับ ในตอนนั้นคือ พยายามหาว่า จะทำอะไร หรือทดลองโน่นนี่นั่นอยู่ ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ จะเรียกว่าค้นหาตัวเองก็ได้ ก็คล้ายกับกักตัวไปโดยปริยาย แต่โดยรวมแล้ว “ไม่มีรายได้” และมันก็ต้องใช้เงินเก็บ..

ผมไม่ใช่คนรวย ไม่ใช่ลูกเศรษฐีมีสมบัติ ในภาวะที่หยุดงาน ผมก็ใช้ได้แค่เงินตัวเองที่อดออมมาจากการทำงานมนุษย์เงินเดือนสมัยนั้น จึงมีไม่มากอะไร ไม่ได้พึ่งพาใคร เพราะถ้าไปกวนใครเขา เขาก็ต้องบอกว่าทำไมไม่หางานทำ ซึ่งป่วยการอธิบาย เอาเป็นว่า ช่วงชีวิต 2-3 ครั้งในตอนนั้นแหละครับ ก็เหมือนว่าต้องใช้ไม่ให้เกินเดือนละ 5 พัน ไปโดยปริยาย ทีนี้จึงจะมาเล่า และแบ่งปันประสบการณ์ดังที่บอก

แนวคิดการอยู่รอด เดือนละ 5 พัน

ถึงตรงนี้ที่ยังไม่จบนะครับ และหลายคนเริ่มคิดแล้วว่า เรื่องที่กล่าวมาไม่เป็นปัญหาหรอก แค่กินอยู่ แต่รายจ่ายอื่น ๆ ที่เป็นภาระล่ะจะทำไง?

สำคัญที่สุดคือ วินัย และ อดทน

ถ้าในตอนนี้มันเป็นสถานการณ์ปกติก็เรื่องหนึ่ง แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ หากไม่คิดจะอดทน ใครก็คงช่วยอะไรเราไม่ได้ หลายเรื่องที่เขียนในบทความนี้ อาจเป็นสิ่งที่รู้อยู่แล้ว คิดได้กันอยู่แล้ว แต่การลงมือทำให้เข้มงวดนั้นสำคัญกว่า และจะเต็มใจหรือไม่ คนที่ไม่เคยทำได้ จะทำได้ในตอนนี้และอาจมีประโยชน์ในระยะยาวด้วยซ้ำไป กลายเป็นโอกาสในการเรียนรู้ประหยัดอดออมไปอีก

อีกประการคือ อย่าได้ไปคิด หรือรู้สึกว่า อดสู ลำบาก การทำบางสิ่งพือวันข้างหน้านั้น ควรจะนับถือความอดทนเพียรพยายามของเราด้วยซ้ำไป ถ้าเป็นช่วงปกติ การออกกำลังกาย การลดน้ำหนัก การมุ่งมั่นอ่านหนังสือสอบ การซ้อมกีฬา การขยันเพื่อที่จะรวย สิ่งต่าง ๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อวันข้างหน้า  ก็จะผ่านภาวะคล้ายนี้อยู่ดี

ณ วันนี้ ผมพยายามคิดว่า จะช่วยอะไรได้บ้างในภาวะเช่นนี้ นอกจากช่วยตัวเองและคนรอบข้างไปพลาง บทความนี้ก็เป็นอีกสิ่งที่คิดว่าน่าจะมีประโยชน์และเป็นสิ่งที่ผมทำได้ บนความถนัด หรือจากสิ่งที่มีอยู่ ใครมีไอเดีย มีความสามารถ มีกำลังด้านใด ก็ต้องช่วยกันครับ หรือเอาแชร์กัน แม้ว่า เดี๋ยวมันก็ผ่านไป แต่ระหว่างนี้แหละครับ ก็ต้องพากันผ่านไป ไปด้วยกัน

Exit mobile version