“พี่ช่วงนี้หนูยุ่งจนไม่มีเวลาใช้เงินเลยพี่…” เป็นประโยคที่พูดขึ้นกลางวงสนทนาหนึ่ง ทำให้เพื่อนร่วมวงหลายคนโต้ตอบในทำนองว่าน่าหมั่นไส้ บ้างก็กระเซ้าว่าคงเหนื่อยแย่ แต่นึกดี ๆ บางทีนี่แหละปัจจัยที่ทำให้บางคนรวยขึ้น ๆ ได้จริง ๆ
จากประโยคก่อนหน้า บางคนก็คิดย้อนทีเล่นทีจริงได้ทันทีว่า “ต่างกับเราที่ว่างเลยมีเวลาใช้เงิน… หมด” 😅 และแง่นี้มันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ คนที่ไม่มีเวลาใช้เงิน ย่อม “เงินเหลือ” มากกว่าคนที่มีเวลาใช้เงิน และคำว่า “ยุ่ง” ในที่นี้ต้องหมายถึง ยุ่งในเรื่องการงาน หรือในเรื่องที่เป็นสาระแบบไม่ได้เสียเงิน ที่สำคัญถ้าความยุ่งนั้น “แปรผันตามรายได้” ด้วยแล้ว เขาเหล่านั้น รวยขึ้น ๆ คงไม่แปลกอะไรที่จะยิ่งยุ่ง ยิ่งรวย
ตัวอย่างง่าย ๆ ที่หลายคนอาจมีประสบการณ์ ในวันที่เรายุ่งทั้งวัน มันทำให้เราแทบไม่มีเวลา “กิน” หรือมานั่ง “เลือกกิน” แค่เรื่องนี้ก็ทำให้เราเสียเงินน้อยลงมาก เพราะเราจะไม่ว่างพอไปสรรหากิน ออกไปกินอะไรแพง ๆ ไม่ได้เพราะไม่มีเวลา หรือ กินได้ตามจำเป็น ไม่มีเวลากินจุกจิก หากเป็นเช่นนี้ ค่ากิน ก็หายไปพอควร นี่คือตัวอย่างง่าย ๆ ต่อคำว่า “ไม่มีเวลาใช้เงิน” หรืออีกนัยหนึ่งไม่มีเวลาทำให้เสียเงินโดยใช่เหตุ
ผมเคยบรรยายบ่อย ๆ ว่าการเงินเป็นเรื่องง่าย เพราะมีแค่ 2 เรื่องใหญ่ คือ “รายรับ” กับ “รายจ่าย” เราแค่ทำให้ส่วนแรกมากกว่า หรือส่วนสองน้อยกว่าให้ได้เท่านั้นเอง และในเมื่อ “ความยุ่ง” ทำให้เงินเข้ามาก กับ “ยุ่ง” ทำให้เงินออกน้อย มันจึงเป็นสิ่งส่งเสิรมกันเป็นทวี..
ที่อาจละเอียดอ่อนกว่านั้นคือ ในเวลาที่เราว่าง, เบื่อ, ไม่มีเป้าหมาย, หรืออยู่ในภาวะที่ไม่ค่อยดี วิธีเยียวยาหรือสร้าง “ความสุขแบบง่าย” ก็มักเป็นเรื่องเสียเงิน ไม่ว่าจะเป็น กิน, เที่ยว, ดื่ม, หรือซื้อสิ่งบันเทิง ส่วนคนกำลัง “ยุ่ง” อันหมายถึงมี “เป้าหมายต้องบรรลุ” ย่อมมองผ่าน หรือเรื่องเหล่านี้จะดูเล็กน้อยไปในทันที และตรงนี้เองจึงเป็นข้อสังเกตด้วยว่า “ยุ่งที่ดี” ในแบบที่ไม่มีเวลาใช้เงินนั้น มันไม่ใช่ ยุ่ง-เครียด หรือ ยุ่ง-ทุกข์ เพราะหากเป็นมุมนี้เราจะไม่อยากยุ่ง จะหนีออกไปให้ไม่ยุ่ง เพราะนั่นจะหันไปหาความสุขแบบง่าย ที่ใช้เงิน…
ความละเอียดอ่อนในมุมต่อมาบนความเป็นปัจจุบัน กับโลกยุคที่ทุกคนสื่อถึงกัน จะ Online network หรือ Social network ก็ตามที ทำให้สิ่งยั่วยุการใช้เงินมีมาก “ยิ่งว่างมาก” ก็มีโอกาสจะโดนดึงดูดที่สมัยนี้เราอาจเรียกว่า “โดนตก” ไปกับสินค้าและบริการออนไลน์ที่มีมากมาย และ “ยิ่งว่างมาก” กับภาวะจิตใจที่ไม่เป็นตัวเอง การมองคนอื่น การเอาตัวเองไปเปรียบเทียบ ก็นำพาให้ อยากมี, อยากอวด, อยากแสดง ทางภาพและวัตถุมากขึ้น ซึ่งหากเรา “ยุ่ง” อยู่ เราก็จะไม่มีเวลาสนใจสิ่งเหล่านี้ หรือคนเหล่านั้น มันก็ออกห่างจากเร้าไปได้ โดยไม่เกี่ยวว่าต้องมีจิตใจเข้มแข็ง หรือปลดปลง
จะเห็นว่า “ไม่มีเวลาใช้เงิน…” แน่ละ เงินก็เหลือมากขึ้น และยิ่งเหตุที่ทำให้ไม่มีเวลานั้นคือการเอาเวลาไปหาเงิน หรือพัฒนา, สร้างความก้าวหน้าก็ยิ่งส่งผล ดังนั้น “การทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้” อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรารวยขึ้น เพียงแต่ “ยุ่ง” นั้นต้องไม่ใช่ ยุ่งเรื่องปัญหาคาราคาซัง ที่มันไม่ก่อให้เกิดอะไร เพราะยุ่งแนวนั้นสุดท้ายมันคืออยากใช้เงิน แต่ไม่มีเงินให้ใช้ ไม่ใช่ ไม่มีเวลาใช้เงิน ตรงนี้แยกให้ดี คิดให้ออก และต้องหลุดออกมาให้ได้ ค่อย ๆ วิเคราะห์กันไป ดู…