ผมเจอเรื่องราวเรื่องหนึ่งมา Presentation มืออาชีพ ขออภัยเจ้าของเรื่องต้นฉบับที่ไม่อาจอ้างอิงถึงได้ เพราะว่าได้เรื่องนี้ผ่านมาทางโปรแกรมแชท โดยไม่มีเครดิตติดมาด้วย ถ้าใครรู้ที่มาที่ไปกรุณาแจ้งที่คอมเม้นท์ได้เลยครับ ผมจะได้ใส่เครดิตให้เจ้าของเรื่อง ทันที บทความเรื่องนี้อาจไม่ ใช่บทความการตลาดโดยตรงนัก แต่คนทำงานการตลาดย่อมรู้ดีว่า งานหลักอย่างหนึ่งคือการที่ต้องมีหน้าที่ นำเสนอ หรือทำ Presentation ซึ่งในเรื่องนี้อาจไม่ใช่องค์ความรู้โดยตรงอันใด แต่เป็นมุมมองที่น่าสนใจและสนุกดีทีเดียวจากขำขันเรื่องหนึ่งดังนี้
ภรรยา 2 คนคุยกันในสำนักงาน…
ภรรยาคนที่ 2 : ห่วยแตก..สามีกลับมา กินข้าวเย็น 3 นาที แล้วอีก 2 นาทีหลับไปเลย.. ของเธอดียังไง
ภรรยาคนที่ 1 : มันสุดแสนอะเมซซิ่ง สามีกลับบ้านแล้วพาไปดินเนอร์..โรแมนติกมาก หลังจากนั้นก็เดินเล่นกันเป็นชั่วโมง พอถึงบ้าน สามีจุดเทียนรอบบ้านเลย สวยงามราวกับเทพนิยาย
สามีคนที่ 2 : สุดยอด…กลับบ้านไป มีอาหารวางอยู่บนโต๊ะ ผมกินแล้วก็นอนเลย..ของคุณล่ะ
สามีคนที่ 1 : ห่วยแตก..พอกลับถึงบ้าน..ไม่มีอาหาร ไฟฟ้าโดนตัดเพราะลืมจ่ายค่าไฟ เลยต้องพาภรรยาไปกินข้าวนอกบ้าน ค่าอาหารเย็นแพงมากจนไม่มีเงินค่าแท้กซี่เหลือ ต้องเดินกลับบ้านเป็นชั่วโมง พอถึงบ้าน..นึกได้ว่าไม่มีไฟฟ้า จึงต้องจุดเทียนทั้งบ้าน..เฮ้อ !!!!!!!!!!
- อย่างแรกเธอมีวิธีการเปิดที่จะเข้าประเด็นที่ดี โดยทำทีเป็นฝ่ายถาม ผู้ฟังก่อนเพื่อให้สนใจฟังเรื่องเธอบ้างภายหลัง
- เธอเลือกใช้คำที่เป็นเชิงบวกในการนำเสนอแต่แรก “เมื่อวานรู้สึกดีมากเลย..” และ “สุดแสนอะเมซซิ่ง”
- เธอเลือกมุมมองบวกกับเหตุการณ์เอามานำเสนอ โดยไม่ไปแตะต้องความเป็นจริง
ที่จริง เราจะมองเรื่องนี้เป็นในแง่ Positive thinking ก็ได้ แต่โดยส่วนตัวมองว่า การนำเสนอ นี้ คือการเปลี่ยนภาพจากลบมาก เป็นดู บวกมาก เหล่านี้คือนักการตลาดหรือนักโฆษณา ต้องมีทักษะแบบนี้ติดตัว เพราะขนาดเปลี่ยนมุมมองได้อย่างหน้ามือเป็นหลังมือ ได้แบบนี้ คงสามารถที่จะพรีเซนต์ของดี ให้โดดเด่นได้ไม่ยาก จริงไหมครับ