ปฐม พับจดหมายแจ้งค่าเล่าเรียนของลูกสาวเก็บเข้าลิ้นชักหลังจากอ่านเป็นครั้งที่ 3 เขาหันไปมองทางลูกสาวที่นอนหลับอยู่ในมุ้งเก่า ภายใต้หลังคาเพิงพักสังกะสีเล็ก ๆ ก่อนจะเดินออกจากที่นั่น คร่อมมอเตอร์ไซค์พร้อมคลำหาสิ่งหนึ่งบริเวณเอวภายใต้เสื้อแจ็คเก็ตของเขา เมื่อแน่ใจว่ามันอยู่ดี เขาจึงติดเครื่องมอเตอร์ไซค์ขี่ออกไป
3 ทุ่มแล้ว ปฐมจอดมอเตอร์ไซค์อยู่ห่างจากศาลาปากทางถนนเข้าหมู่บ้านไม่ไกลนัก ถนนหลวงยามค่ำคืนมีรถวิ่งสาดแสงไฟเป็นระยะๆ เขาซุ่มอยู่ริมทางที่มีป่าละเมาะอำพรางตัวด้วยความมืด จับจ้องไปยังศาลาพักผู้โดยสารแห่งนั้นที่ไม่มีใครอยู่เลย ไฟจากปลายมวนบุหรี่ของเขาที่แดงวาบขึ้นมา พร้อมควันบุหรี่ที่ล่องลอยล้อกับแสงไฟรถที่วิ่งไปมาเป็นระยะดังงานศิลปะบนอากาศ บุหรี่หมดไป 2 มวนแล้ว เขายกนาฬิกาข้อมือดูเวลา
สักพัก มีรถบัสคันหนึ่งชะลอความเร็ว แล้วจอดนิ่งหยุดที่ศาลา ชายคนหนึ่งลงมาจากรถ แล้วรถบัสก็เคลื่อนตัวออกไป ชายผู้ลงรถมาเดินมายืนกดโทรศัพท์มือถืออยู่ใต้เสาไฟริมถนนเข้าหมู่บ้าน
ปฐมหรี่ตาจ้องมองชายคนนั้นอย่างตั้งใจ เขาแน่ใจแล้วว่าใช่คนที่เขามารอ เขาล้วงเข้าไปใต้เสื้อแจ็คเก็ตหยิบเจ้าโลหะสีดำออกมาแนบไว้ข้างกาย ค่อยๆ เดินไปทีละก้าวอย่างเชื่องช้าพยายามไม่ให้เป้าหมายรู้ตัว
ชายคนนั้นคงเพิ่งโทรบอกใครให้มารับ เมื่อปฐมเข้ามาใกล้ แสงสว่างจากแสงไฟตรงนั้นไล่ความมืดที่ช่วยอำพรางเขาก่อนหน้านี้ออกไป ชายผู้ตกเป็นเป้าหมายหันมามอง ขณะที่ปฐมยกมือข้างหนึ่งขึ้นมา
ปืน! ของเขาเล็งไปที่หน้า ผู้ชายคนนั้นผงะถอยหลังและสะดุดเข้ากับข้าวของตัวเองที่หลุดจากมือจนก้นจ้ำเบ้า ปืนของปฐมยังคงเล็งอยู่พร้อมก้าวเข้าหาเป้าหมายที่กำลังยกมือไหว้เขา พร้อมละล่ำละลักร้องขอชีวิต ดิ้นถีบตัวเองถอยร่นไปด้านหลัง สายตาลนลานสลับมองปฐมร้องขอชีวิตไปเรื่อยๆ
ไม่รู้ว่าเพราะการร้องขอชีวิตของชายคนนั้นได้ผลหรือเหตุใดที่ทำให้ปฐมยังไม่เหนี่ยวไก จนชายคนนั้นตัดสินใจก้มกราบหมอบซุกพร้อมยังคงส่งเสียงร้องของชีวิตกับพื้นดิน
ปฐมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ พลันมีแสงไฟจากมอเตอร์ไซค์สาดมาทางเขาและชายผู้ตกเป็นเป้าหมาย มอเตอร์ไซค์เคลื่อนเข้ามาจนจอดอยู่ไม่ไกลนัก ปฐมหันไปมองโดยยังไม่ละปืนลง ชายผู้ตกเป็นเหยื่อหันมองไปเช่นกัน แต่เขารู้ทันทีว่าเป็นใคร “เดือน! พาไอ้แดงหนีไป” หญิงที่ถูกเรียกเคลื่อนรถมาใกล้พอจะเห็นภาพชายคนหนึ่งยืนเล็งปืน ไปทางสามีจึงได้แต่จอดรถและชะงักอยู่ตรงนั้น
“พ่อ!” เสียงเด็กที่มาด้วยร้องเรียกลงจากรถทำท่าจะวิ่งมาทางพ่อ แต่ผู้เป็นแม่คว้าตัวเอาไว้พร้อมร้องเรียกสามี
ในตอนนั้นเองปฐมกลับหันหลังวิ่งหนีไปทางมอเตอร์ไซค์ของเขาและรีบติดเครื่องขี่ออกไป เขาบึ่งรถมอเตอร์ไซค์เข้าเมืองไปจอดที่หน้าร้านแห่งหนึ่งซึ่งตอนนี้มันปิดแล้ว เขาเคาะประตูเหล็กร้านอย่างเร่งร้อน “แป๊ะ! อาแป๊ะ” จนได้ยินเสียงด้านในตะโกนออกมา “ลื้ อ เ ป น ใ ค ร ว ะ”
“ฐมเองครับแป๊ะ” เขาหยุดเคาะประตูและบอกชื่อที่คนข้างในคุ้นเคย ประตูไม้แง้มออกเพียงช่องหนึ่งมามองเขา “ลื้อ มีอะรายมาจนป่านนี้” แล้วเขาก็ล้วงปืนออกมาจากแจ็คเก็ต อาแป๊ะ เหลือบเห็นปืนในมือปฐมผงะถอยออกไปปิดประตูกลับทันที แต่ปฐมเอามือไปดันไว้อย่างรวดเร็ว
“ลื้อต้องการอะรายวะ!” อาแป๊ะตะโกนลั่น
ปฐมรีบตอบละล่ำละลัก “แป๊ะๆ ช่วยผมเถอะ รับจำนำมันไว้หน่อยผมต้องจ่ายค่าเทอมลูกพรุ่งนี้ ช่วยผมสักครั้งนะแป๊ะ”…
(Flash Fiction คือเรื่องสั้นขนาดสั้น)