น้ำหอม กับ ความสุขที่ไม่เดือดร้อนใคร?

by

| Home » บทความดีๆ » บทความน่าอ่านและเรื่องราวดีๆ » A Life In A Day » น้ำหอม กับ ความสุขที่ไม่เดือดร้อนใคร? |


เราหลายคนอาจเคยยึดคติที่ว่า “อะไรที่มีความสุขก็ทำไป ไม่เดือดร้อนใครก็พอ” เพียงแต่ประโยคที่ว่า “ไม่เดือดร้อนใคร” มันช่างละเอียดอ่อน และบางทีเราก็หลงเข้าใจผิดไปเองว่า ไม่เดือดร้อนเขา…

บทความนี้เป็นเพียงเรื่องราว, เรื่องเล่าในมุมหนึ่ง ที่หากพิเคราะห์ประโยคที่ว่า “ความสุข ที่ไม่เดือดร้อนใคร” ให้ดี ๆ คงพบได้ว่ามันมีนัยยะบางอย่างบ่งบอกอยู่ หมายถึง ความสุขที่ที่ว่านั้นมันต้องมีอะไร จนทำให้ต้องออกตัวปกป้องว่า “ไม่เดือดร้อนใคร” ดังเช่น เป็นความสุขที่คนอื่นเขาอาจมองว่าไม่น่าสุข เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ หรือเป็นความสุขที่คนอื่นเขาไม่ได้สุขด้วย เป็นไปได้ด้วยว่าความสุขที่ไม่เดือดร้อนใครนั้น เราคิดเข้าข้างตัวเองว่าไม่เดือดร้อน แต่จริง ๆ มีคนเดือดร้อนก็เป็นได้…

“ความสุข” ที่ไม่เดือดร้อนใครนั้นมันต้องไม่กระทบความเป็น “ปกติ” ของผู้อื่นด้วย เช่น เพลงที่เราเปิดฟังในบ้าน ต่อให้เป็นเพลงที่ไพเราะสำหรับเรามากมาย หรือฮิตติดชาร์ต แต่หากเปิดไปเข้าหูข้างบ้านดัง ๆ เขาย่อมมีสิทธิ์รำคาญ ต่อให้ดังไม่มาก ไม่เกินกฎหมายกำหนดเขาก็มีสิทธิไม่ชอบ เมื่อไม่ชอบก็นับได้ว่ามีคนเดือดร้อน นี่เพียงมุมหนึ่ง…

“น้ำหอม” สิ่งที่สร้างมาเพื่อความหอม เราส่วนใหญ่ล้วนชอบ “หอมมากกว่าเหม็น” แต่ถึงแม้ชื่อว่าน้ำหอม สำหรับบางคนมันก็เหม็นได้เช่นกัน กล่าวคือ หอมสำหรับเราแต่สำหรับเขาอาจไม่ใช่ และแม้หอมจะดีกว่าเหม็น แต่อาจไม่ได้หมายความว่า หอมจะดีกว่ากลิ่น “ปกติ” หรือธรรมชาติปัจจุบันที่เป็นอยู่ นี่ก็มุมหนึ่ง…

น้ำหอมที่หอมสำหรับเรา เพียงแต่ทันทีที่ไปเข้าจมูกใครบางคนเข้า มันอาจกลายเป็นกลิ่นไร้รสนิยม, ราคาถูก ก็เป็นได้ ซึ่งบางทีมันไม่ได้สำคัญเลยว่าจะหอมหรือไม่ เพียงแค่นี่ไม่ใช่กลิ่นที่มีราคาแพง หรือเราก็อาจแอบเหยียดน้ำหอมคนอื่นเพียงเพราะรู้ที่มาของน้ำหอมนั้น รวมแล้วเราอาจดิ้นรนหรือตัดสินบางสิ่งเพียงแค่ราคา… ความสุขก็เช่นกัน

คนเรามักเลือกน้ำหอมตามที่เราชอบเป็นเบื้องต้น เพราะเช่นนี้จึงเป็นไปได้ว่าเราไม่เคยรับรู้เลยว่าน้ำหอมอื่นอาจหอมกว่า หรือน้ำหอมที่เราซื้อมาเป็นเพียงของปลอม ที่ผลคือหอมไม่นานก็จางและเปลี่ยนไป เสื้ออาจเป็นรอยด่าง ผิวอาจเกิดอาการแพ้ และสนับสนุนธุรกิจผิดกฎหมาย นั่นเพียงเพราะเราไม่ได้รู้จักอะไรดีพอ คิดเอาว่าแค่ชอบแบบง่าย ๆ… ความสุขก็เช่นกัน

ที่สำคัญน้ำหอมของหลายคนใส่เพราะต้องการความมั่นใจ ซึ่งมากกว่า “เติมความมั่นใจ” คือ “ขาดความมั่นใจ” ย่อมใส่มันเกินพอดี เช่นนี้คือภาวะที่ “มากเกินไป” การมีคนชมจึงหลงไป แม้รู้ตัวว่าเริ่มฉุนแต่คิดเอาว่าคนอื่นเขาคงชอบจึงทนได้ โดยที่ไม่เคยรู้ว่าคนที่ชอบอาจชม แต่ที่ไม่ชมและไม่ชอบแล้วไม่พูดอาจมีมากกว่า… ความสุขที่ไม่เดือดร้อนใคร?

น้ำหอมควรทำเรามั่นใจ หรือคนที่จะได้กลิ่นนั้นไปตลอดคือเรา บางทีน้ำหอมก็ควรใส่แค่ให้ตัวเอง… ความสุขก็เช่นกัน

ที่สุดแม้เราจะเลือกน้ำหอมที่ดี ไม่สำคัญว่าแพงแค่ไหน ไม่สำคัญว่าใครจะชอบหรือไม่ และคิดว่ามันพอดีแล้วก็ตาม แต่ต้องไม่ลืมว่า ความเคยชินทำให้เราได้กลิ่นมันน้อยลง และคิดไปเองว่ายังไม่หอม เราจึงต้องการปริมาณที่มากขึ้น จนสุดท้ายมากไปโดยไม่รู้ตัว และมันก็ “มากไป” ได้อีกครั้ง…

ความสุข เป็นเรื่องที่ควรสุข แต่ความสุขบางคนกลับไม่ได้ขึ้นอยู่กับตนเอง ความสุขบางคนให้ค่าเพียงราคา ความสุขบางคนคิดไปเองว่าทำเพื่อคนอื่น ความสุขบางคนเมื่อมีแล้วก็เคยชินดิ้นรนหาต่อไปจนไม่พอดี ความสุขที่ไม่เดือดร้อนใครอาจแค่วันนี้ หรือจะอ้างว่าจะเดือดร้อนก็แค่ตัวเรา ใด ๆ เช่นนั้นมันก็ไม่น่าใช่ความสุข… แท้

ปล.น้ำหอมอาจไม่ใช่สิ่งสร้างความเดือดร้อนได้มากมายในชีวิตจริง เพียงนำมาเปรียบเทียบบนความละเอียดอ่อนของมุมคิดเท่านั้น

น้ำหอม กับ ความสุขที่ไม่เดือดร้อนใคร?
Sirichaiwatt Avatar
วิทยากร คอลัมนิสต์ นักเขียน นักคิด ที่ปรึกษา อิสระ ปัจจุบันประกอบอาชีพหลัก พ่อบ้าน :P ส่วนวิทยากร ธุรกิจส่วนตัว และอื่น ๆ เป็นอาชีพรอง.. V(^0^)V
แสดงความคิดเห็น