เป็นประโยคคำถามที่มีความดราม่าอยู่ในตัวอย่างไม่ต้องสงสัย “ระหว่างเงินกับความรัก คุณเลือกอะไร?” คำตอบอาจคละกันไป และอาจเดาได้ในคำตอบของบางคน เพราะมันมีตัวแปรอยู่บางประการ แต่บางทีบทความนี้อาจมีมุมที่เปลี่ยนทัศนคติใครได้หลายคน
ขี้เกียจอ่าน กดฟังแทนก็ได้นะ [Podcast]
ระหว่างเงินกับความรัก คุณเลือกอะไร?
จากคำถามที่ได้บอกไปว่าคำตอบพอเดาได้ไม่ยากเพราะจะแบ่งตัวแปรได้ออกเป็น 2 ส่วนคือ
- คนที่คิดว่ามีเงินมากพอแล้ว ก็ย่อมตอบว่าเลือก ความรัก.. กับคนที่คิดว่ามีความรัก(ที่ดี)อยู่แล้ว ก็ย่อมตอบว่า เงินสิ ก็เพราะเราต้องเลือกสิ่งที่ขาด
- ในอีกด้าน ถ้าใครเจ็บปวด หรือรู้สึกทุกข์จากอีกสิ่งก็จะเลือกอีกสิ่งแทน เช่น คนที่รู้สึกว่า การหาเงิน หรือเรื่องเงินทองทำให้ทุกข์ ก็จะรู้สึกว่าเลือกความรักดีกว่า ในขณะคนที่ทุกข์กับรักมามาก ย่อมเลือกเงินดีกว่าเช่นกัน.. นี่เราย่อมเลือกสิ่งที่(รู้สึก)สุขได้ง่ายกว่า
จากเงื่อนไขข้างต้นที่ดูน่าจะชัดเจน แต่ก็อาจมีคนรู้สึกแย้งว่า ด้วยสังคม ค่านิยมทุกวันนี้แล้ว มันทำให้ใคร ๆ ก็ต้องเลือกเงินหรือน่าจะเลือกเงินมากกว่า ซึ่งอาจเป็นไปได้ เพียงแต่สุดท้ายมันก็สะท้อนตัวแปรเดิมอยู่ดีว่า ก็เพราะยุคนี้เรายังรู้สึกขาดเงินมากกว่า ที่ไม่ได้หมายความต้องจนหรือขนาดขัดสน เพียงคิดว่ายังมีมันไม่พอตอบสนองในหลาย ๆ ด้าน จึงยังต้องการและเห็นความสำคัญของเงินมากอยู่
ไม่ต่างจากคนที่ไม่เชื่อในเรื่องความรัก ย่อมไม่คิดว่ามันจะสุขได้จริง จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของคนนั้น หรืออะไรก็ตาม ทำให้สรุปได้ว่ายากที่จะหาสิ่งดี ๆ จาก “รัก” คำนี้ ทั้งสิ้นก็ยังไม่พ้นตัวแปรเดิมข้างต้น เพียงแต่เป็นมุมที่ละเอียดอ่อนกว่า โดยอย่างยิ่งสังคมปัจจุบันที่ดูจะไปบนแนวทางที่เหมือนว่า มีเงินหาสุขได้มากกว่า หรือเลือกรักมักดูโง่ แต่ถ้าให้ทบทวนดี ๆ สิ่งที่อยู่ในใจอาจจะไม่มีใครบอกออกมาได้ตรง ๆ หรือจะมีใครไหมที่อยู่ได้แบบไร้รักสิ้นเชิง?
ที่กล่าวไปนั้นไม่ได้เป็นบทสรุปของทุกคน เชื่อว่ามีหลายคนที่กำลังคิดว่า เลือกไม่ได้.. หรือ ต้องเลือกทั้งสองอย่างนั่นแหละ ซึ่งหากพิจารณาแล้วมันก็อาจเป็นไปได้ยากที่จะให้เลือกเพียงอย่างเดียว..
..แน่หรือ ถ้ามีเงินมากพอ คุณพร้อมที่จะทิ้งญาติ มิตร พี่น้อง ไร้คู่ครอง และสุขกับเงิน วัตถุ สิ่งของ ที่มี?
..แน่หรือ ว่าคุณพร้อมที่จะรักคนหนึ่ง ซึ่งแม้จะขัดสนอย่างไรก็ยอม?
ไม่มีทางหรอกที่เราจะเลือกในทางหนึ่งทางใดอย่างเด็ดขาด หากเลือกสิ่งหนึ่งไปก่อน เมื่อได้มา ก็ย่อมต้องหาอีกสิ่ง
ในมุมหนึ่งอาจเป็นสิ่งที่หลายคนไม่เคยคิดตรองให้ดีกับคำตอบที่มีในใจ สมมติว่า คุณเลือกเงิน และมีมันพอควรแล้ว แต่ถ้าเกิดคนรักคุณป่วยแบบที่ต้องใช้เงินมหาศาล บางทีคุณจำยอม “ทิ้งเงิน” นั้นไปเพื่อรักษา(คน)รักไว้ก็ได้ และเช่นกัน สมมติคุณเลือกรัก เมื่อถึงที่สุดของความลำบากในชีวิตคุณก็อาจต้อง “ทิ้งรัก” ไป เพื่อเงินหรือปัจจัย หรือเป็นฝ่ายเสียสละไปให้คนรักได้ไปสบายก็ได้ (พระเอกนางเอกกันไปอีก แต่ก็ทิ้งนะ อย่าลืม)
ดังนี้ คำตอบของผมคือ เราควรเลือกที่จะเข้าใจมันทั้งสองสิ่งให้ดี และมีมันอย่างเหมาะสม
มีคนไม่น้อย.. ด้วยเพราะความร่ำรวย สามารถมุ่งมั่นทำเพื่อบางสิ่งที่รัก หรือมีคนรักเป็นแรงผลักดัน บันดาลใจ
มีคนไม่น้อย.. ด้วยเพราะรักในบางสิ่ง หรือเพื่อคนรัก จึงมุ่งมั่นให้สำเร็จ ร่ำรวย
ไม่ว่าจะในมุมไหน สองสิ่งนี้มันมักจะไปด้วยกันและไปด้วยกันได้ ต้องเข้าใจมันให้ดี ๆ ก่อน เพราะ รัก มักนิยามได้หลากหลาย และเงินก็กลายเป็นปัจจัยแห่งความสุข หรือแปรเปลี่ยนเป็นความสุขได้ในหลายทาง…
ทั้งนี้ทั้งนั้น ชีวิตที่ดี คือความพอดี ความเหมาะสมในทุกด้าน บางทีคำถามแบบนี้ไม่ควรที่จะต้องใส่ใจ เพราะเป็นคำถามที่ไม่เข้าท่าเอาเลยเสียด้วยซ้ำ..
ปล. รักในที่นี้มิใช่เพียงรักแบบแฟน หรือคู่ครองเพียงอย่างเดียว แต่ถ้าจะจำเพาะกรณีนี้จริง ๆ บางคนอาจคิดว่ามีเงินไม่ต้องมีแฟนก็อยู่ได้ นั่นอาจเป็นเพียงมุมคิดที่ยังไม่เคยประสบ เพราะย้อนไปปัจจัยเดิมถ้ามีเงินพอ เราอาจอยากมีแฟนขึ้นมาอีกอยู่ดี หรือการที่คิดว่าเรามีรักอื่นทดแทนกัน เช่น พ่อแม่พี่น้อง, สัตว์เลี้ยง อาจพอชดเชยได้ มุมหนึ่งอาจเป็นเพราะเรา เข็ดขยาดกับรักไป หรือหมดความเชื่อมั่นแล้วเสียมากกว่า พูดง่าย ๆ ถ้ามีรักที่ดีได้ใครล่ะไม่อยากมี…