ถ้าวันนี้บอกว่า มีเวลาให้หนึ่งเดือน เพื่อทำอะไรบางอย่าง ที่ไม่ใช่กิจวัตรประจำวัน คุณว่า.. เวลาหนึ่งเดือนนั้น ทำอะไรได้บ้าง?
มันก็คงทำได้หลายอย่าง ทว่า สิ่งที่ทำใด้นั้น มีการพัฒนาตนเอง มีเป้าหมาย มีความสำเร็จเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เพราะถ้ามันมีเป้าหมาย ยิ่งสูง ยิ่งใหญ่มาก เชื่อว่า หนึ่งเดือน ก็ยิ่งสำเร็จยาก..
ขี้เกียจอ่าน กดฟังแทนก็ได้นะ [Podcast]
ในวันนี้ 1 ธันวาคม เหลือเวลาอีกราว 30 วัน หรือ 1 เดือน ก็จะสิ้นปี ใครที่วางแผนประจำปี (year plan) เอาไว้จากปีก่อน ถึงตอนนี้ สำเร็จกันแค่ไหน สำหรับผมแล้ว แผนปีล้มไม่เป็นท่า มาปรับแผนใหม่ครึ่งปี หลายเรื่องก็ทำได้ดี 70-80% หลายเรื่อง ก็ไม่ดีนัก 50-60% ว่ากันอย่างไม่แก้ตัว เรื่องที่ทำได้ไม่ดี มันมีเหตุ ปัจจัยให้เปลี่ยนแปลง หลายเรื่องก็เลิกทำ ในเรื่องที่ทำได้ดี ก็ถือว่าดีตามประสา เพราะถ้าเราวางเป้าหมายให้ทำได้ 100% แสดงว่าเป้าหมายเราง่ายไป
อะไรก็ตาม ในทุก ๆ ปี หรือบางปี เราจะมีความคิดแนวว่า “หมดปีอีกแล้วเหรอ?” มันก็มีเหตุให้รู้สึกต่างกันไป บ้างก็เป็นปีที่เพลิดเพลิน บางก็เป็นปีที่วุ่นวายเสียจนลืม ใด ๆ ก็ตาม สำหรับวันนี้ ปีนี้ ยังมีเวลาอีก หนึ่งเดือน..
สำหรับคนที่อะไร ๆ ยังไม่ลงตัว ไม่คืบหน้า ไม่เหมาะสม กระทั่งไม่ได้วางแผนอะไรเลยที่ผ่านมา หากรู้สึกเสียดายเวลา มาลองคิดกันดูว่าหนึ่งเดือนที่เหลือนี้เราจะทำอะไรให้ตัวเองกันดี..
“วางแผนสำหรับปีหน้าไหม?” แต่วางแผนอย่างไร ก็แล้วแต่คน คนที่ไม่เคยอาจได้ลอง คนที่เคยแล้วอันนี้ต้องทบทวนตัวเองเข้มข้นกันหน่อย แผนที่ควรจะทำได้ดี ต้องทำได้จริงด้วยล่ะ อย่าให้เหมือนที่ผ่านมา สำหรับคนที่วางแผนประจำปีมาสม่ำเสมอ ก็คงไม่ต้องบอกอะไร.. หรือเดือนนี้เราควร..
“ทบทวนปีที่ผ่านมาก่อนดีกว่า..” อันนี้ก็ดี ลองย้อนมองดูสิว่าเราคิดออกไหม ทั้งปีที่ผ่านมา เรามีอะไรคืบหน้า มีอะไรเรียนรู้ มีอะไรหลงลืมไป หรือพบเจออะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดี หรือร้าย แต่ถ้าคิดอะไรไม่ค่อยออกเกี่ยวกับปีนี้ นั่นแสดงว่าเป็นปีที่เราคงปล่อยเวลาไหลผ่านเป็นน้ำไปแน่ ๆ แบบนี้คงไม่ดี
“ตั้งต้นใหม่ดีกว่า.”. ก็เป็นเรื่องที่ดี ที่เราทำกันบ่อย ๆ ปีใหม่ กับเรื่องราวใหม่ ๆ แต่ตรงนี้คิดดูดี ๆ นะครับ ถ้าเราแว่บในหัวขึ้นมาเรื่องอะไร แสดงว่า เรื่องนี้แหละคือสิ่งที่ปีที่ผ่านมาเราคิดมันบ่อยอยู่แล้ว เช่น ปีใหม่มีแฟนใหม่ แสดงว่าทั้งปีนี้เรามีแต่เรื่องแฟนในหัวอยู่แล้ว ปีใหม่หางานใหม่ แบบนี้ก็เช่นกัน ในปีที่ผ่านมา เราก็คงมีปัญหาอะไรกับงานของเรา ซึ่งไม่ผิดอะไรนะครับ เพียงแต่ตระหนักให้ดีว่า ตั้งต้นใหม่ ที่กำลังจะวนไปจุดเดิมหรือเปล่า หรือเราสนใจแต่เรื่องเดียวมากเกินไปหรือเปล่า ตรงนี้ก็ต้องมองจิตใจตัวเองให้ดี ๆ
แต่บางคนก็เหลือเวลาแค่หนึ่งเดือนจริง ๆ กับการทำอะไรหลาย ๆ อย่าง มีงานที่สิ้นปีต้องทำให้จบ มีภาระกิจที่สิ้นปีต้องให้เสร็จ เช่นนี้ก็คงยังไม่อยากคิดอะไรเกี่ยวกับปีหน้าในตอนนี้
เวลาหนึ่งเดือนนี้ ที่จริง มันจะถึงสิ้นปีหรือไม่ มันก็อาจมีความหมายต่ออะไรบางสิ่ง สำหรับหลายคน แต่สำหรับการเปลี่ยนแปลง มันไม่สำคัญเลยว่า เดือนนี้ สิ้นปี หรือ ต้นปี ควรจะเริ่มทำทันที แม้จะมี year plan แต่มันไม่สำคัญเท่า วันนี้ทำอะไร และอะไรที่ต้องทำในทุกวัน เพราะมันคือสิ่งที่เราควรคิด และตระหนักในตอนนี้
หรือแม้ว่า จะมีแผนประจำปี แต่คิดได้วันนี้ ก็วางแผนวันนี้ ลงมือทำของปีหน้าตั้งแต่เดือนนี้ได้เลยทันที อันนี้น่าจะได้เปรียบ ซึ่งต่อให้คิดดีแค่ไหน “แต่ไม่ทำ” จะแผนปี แผนเดือน แม้แต่แผนของวันพรุ่งนี้ บางทีเราก็ผลัดมัน ผลัดมันจาก 1 วัน เป็น 365 วันไป ได้ไม่ยากเลย..
เอาล่ะ สมมติว่า ผมมีเวลาให้เดือนหนึ่ง..
บทความฉบับปรับปรุง เผยแพร่ครั้งแรก Facebook Sirichaiwatt เมื่อ 01/12/2019