เมื่อต้องเอาใจ คนเอาใจยาก

by

| Home » บทความดีๆ » การพัฒนาตนเอง Think+ » เปลี่ยนทัศนคติ » เมื่อต้องเอาใจ คนเอาใจยาก |


คุณเคยประสบปัญหานี้หรือเปล่า? ใครคนหนึ่ง ที่อยากเอาใจเขา หรือรู้ว่าเขาก็อยากให้เอาใจ แต่ซื้ออะไรให้ ทำอะไรให้ ก็ไม่ค่อยจะถูกใจเขาสักที.. พอเราเฉย ๆ ไม่กล้าเอาใจ ก็กลายเป็นว่า เรานี่ ไม่ใส่ใจ!! พูดง่าย ๆ คือ รู้สึกว่าเขา เอาใจยากจัง.. ผมมีมุมมองหนึ่งมานำเสนอ เผื่อว่าน่าจะเป็นประโยชน์นำไปปรับใช้กับ คุณหญิง หรือ คุณชาย เอาใจยากของคุณ.. (θ‿θ)

เรื่องการเอาใจใคร จะบอกว่าง่ายคงไม่ได้ เพราะความคิดจิตใจและในความต้องการแต่ละคนนั้นมันก็ยากที่จะคาดเดาจริง ๆ ฉะนั้นเรื่องนี้ก็ไม่การันตีได้หรอกว่า จะได้ผล ได้ใจใคร 100% แต่ผมก็เชื่อว่า ไม่เสียเวลาเปล่าแน่นอน (ใครที่รู้ตัวว่าเป็นคนเอาใจยาก เห็นด้วยกับข้อไหนช่วยคอมเม้นท์ยืนยันไว้ให้ จะดีมากครับ)

สำหรับเรื่องนี้ ผมก็เคยเป็นคนที่เอาใจยากคนหนึ่ง ด้วยทั้งความคิดซับซ้อน และอารมณ์ศิลปิน พอรวมกันเข้า ใครมันจะตามทัน(วะ) (ಠ_ಠ) ภายหลังมีความคิดและความเข้าใจตัวเองมากขึ้น ก็ไม่คิดว่าเป็นคนเอาใจยากนัก แม้จะมีบางมุมคิดที่ไม่เหมือนใคร แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมา เรียกว่าชัดเจนได้พอสมควร เมื่อเป็นคนชัดเจนแล้วก็ไม่น่าเอาใจยาก (เนอะ) แต่เรื่องนี้ไม่ได้หมายความว่าเขียนโดยเอาประสบการณ์ตัวเองเป็นที่ตั้ง เพียงแต่ทำให้มีมุมมองเห็นชัดจากตัวเองในส่วนหนึ่ง ทั้งตอนที่เอาใจยาก(จริง) และเอาใจยาก..เฉย ๆ.. และผมเชื่อว่า “มีวิธีการที่ดีที่สุด” ในการเอาใจ ใครก็ตาม..

แต่ก่อนจะไปตรงนั้น เราต้องเข้าใจพื้นฐานตรงกันก่อนว่า การทำอะไรอันเกี่ยวข้องกับบุคคล 2 คนเช่นนี้ ปัจจัยมันก็ย่อมมีทั้ง 2 ด้าน ใช่ว่าจะมองเสมอว่าเขา เอาใจยากตลอดเวลา คุณต้อง “กล้าที่จะยอมรับตัวเอง” ด้วยบ้าง ที่ใช้คำว่า “กล้า” เพราะหลายคนก็ไม่ได้เปิดใจยอมรับตัวเองจริงจัง ด้วยมันเป็นเรื่องที่มากว่าตัวเราลำพังดังนี้มันต้องพิจารณาไปทั้งเราและเขา โดยขอแบ่งออกมาเป็น กรณี ๆ ต่อไป

  1. คิดเอา (เอง) ว่าเขาจะชอบ
    มันไม่แปลก เราก็ต้องคิดเอาก่อนว่าเขาจะชอบสิ ไม่งั้นจะทำไปทำไม เอาใจแบบนี้ทำไม? แต่บางครั้งจะเรียกว่า “คิดง่ายไป” หรือ “คิดเองเออเอง” คนเดียวก็ว่าได้ ส่วนใหญ่ถ้าเป็นไปในรูปแบบนี้ แม้จะผิดหวัง เสียใจ แต่มองมุมหนึ่งบางที มันสะท้อนได้เช่นกันว่า “คุณไม่ได้รู้จักเขาดีพอเลย” ในทำนองนี้มีตัวอย่างง่าย ๆ คือ ซื้อเสื้อให้เขาสักตัว จะเป็นเรื่องยากมาก เพราะเราจะเลือกตามที่เราชอบ ซึ่งเขาอาจไม่ชอบ แต่ใจคุณ “พยายาม” คิดว่าเขาใส่แล้วน่าจะดูดี และเรื่องนี้มันเป็นเรื่องรสนิยมที่ตัดสินยากไง มันก็ไม่ถูกใจเขาแม้จริง ๆ อาจใส่ดูดี แต่มันไม่ใช่แนวที่เขาอยากเป็น สไตล์ที่เขาชอบ เช่นนี้ ต้องดูให้ดี อย่าลืมสิว่านี่ “คนเอาใจยาก”

    เอาใจเขา หรือเอาแต่ใจเรา

  2. อะไรสำคัญกว่าสำหรับเขา..
    ในบางครั้งแม้คุณจะรู้จริงว่านี่คือสิ่งที่ดี ที่เขาชอบ แต่คนเราส่วนใหญ่ แม้ชอบอะไรหลายอย่างแต่ก็ใช่ว่าจะต้องอยากได้มันทุกอย่างตลอดเวลา ยิ่งเราโตขึ้นย่อมเข้าใจดี ตัวอย่าง วันหนึ่งคุณนัดไปทำธุระกับเขา ระหว่างทางเจอขนมที่เขาชอบกิน เลยแวะซื้อ บังเอิญว่าคิวยาว จึงทำให้ไปช้า ส่วนเขาชอบตรงต่อเวลาและนัดวันนี้สำคัญพอสมควร แบบนี้ขนมนั้นมันจะไม่ใช่สิ่งดีทันที แม้เหตุผลคุณคือ “ก็ขนมนี่เธอชอบกิน” อะไรทำนองนี้เรียกอีกแบบว่า ลำดับความสำคัญกันผิด

    อีกตัวอย่าง แม้จะเป็นอะไรที่มันน่าจะดี เช่น เขาอยากได้เครื่องเล่นเกมมานาน วันนี้วันดีวันเกิดเขา คุณตัดสินใจไปผ่อนเครื่องเกมมาเซอร์ไพรส์* เขาต้องดีใจแน่เลย… แต่ในอีกด้านสถานะการเงินตอนนี้มันไม่ดีนัก การซื้อของแบบนี้แม้จะพิเศษ แต่มันก็คงทำให้กระอักกระอ่วนใจไม่น้อย กับภาระที่จะตามมา ที่สำคัญคุณอาจไม่ได้คิดว่า เครื่องเล่นเกมซื้อแล้วมันไม่จบ มันต้องซื้อเกมเพิ่ม นั่นเท่ากับว่า ซื้อมาแล้วไม่ซื้อเกมก็ไม่ได้เล่น เสียของอีก ต้องเสียเงินอีก เช่นนี้บางทีก็ต้องดูเวลาว่า ณ ตอนนี้อะไรที่เขาให้ความสำคัญ

    อีกตัวอย่างที่พบบ่อยคือ เขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนั้นเลย เช่นในคนที่ปกติ “กินง่าย ๆ” แล้วเราไปพยายามเอาใจด้วยการพาไปกินนั่น ชิมนี่ ร้านนี้ดัง ร้านนี้อร่อย แม้เขาจะโอเคบ้าง ไม่โอเคบ้าง แต่ทุกอย่างมันก็แค่นั้นสำหรับเขา เพราะเขาไม่ใช่คนที่ให้ความสำคัญกับการกินเลย คุณก็จะคิดไปเองว่า นั่นคือการได้เอาใจ และเมื่อเขาไม่ได้ให้ความสำคัญอยู่แล้ว คุณก็อาจไปโกรธว่าเขาไม่เห็นค่า อุตส่าห์สรรหามาให้กิน เช่นนี้คิดให้ดี เอาใจเขา หรือเอาแต่ใจเราเอง.. อาจจะมีที่รู้สึกว่า ก็บางทีเห็นเขายังชอบไปกินอะไรพิเศษเหมือนกัน ก็ต้องเข้าใจว่านั่นมันไม่ใช่ภาวะปกติสำหรับเขาหรือสิ่งที่เขาจะชอบจริง ๆ อยู่ดี..

    (*surprised เซอร์ไพรส์ นี่จะใช้คำไทยอย่างไรให้ได้อารมณ์ ทำให้ตื่นเต้น ทำให้แปลกใจ ทำให้ประหลาดใจ ก็ไม่เข้าท่าว่าไหม ขออนุญาตทับศัพท์ (‘◉⌓◉’))

    การเอาใจไม่ใด้หมายความว่า ขัดใจไม่ได้

  3. ตามใจให้ทุกอย่างแล้ว..
    การตามใจ ก็เป็นคนละเรื่องกับเอาใจ หรือใส่ใจ
    เพราะการตามใจทำได้ในหลายกรณี เช่น ตามใจจริง ๆ อันนี้ก็มีส่วนดีอยู่ แต่ ตามใจเพราะไม่ใส่ใจ ในทำนอง ทำไรก็ทำไปเหอะ! แนวนี้แน่นอนมันไม่ใส่ใจ หรือ ตามใจเพราะไม่อยากรำคาญ เช่นนี้นานไปไม่ดีแน่นอน และในความสัมพันธ์ใด ๆ นั้นอีกฝ่ายมักรับรู้เสมอว่าคุณกำลังตามใจเพราะอะไร บางครั้งการเอาใจไม่ได้หมายความว่าขัดใจกันไม่ได้เลย บางทีการให้ความสนใจ ช่วยคิด ช่วยตัดสินใจอย่างมีเหตุผล มันก็คือการเอาใจอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องเดียวกับใส่ใจ

    ส่วนหนึ่งมีหลายเรื่องที่อาจเกี่ยวข้องกับกระบวนการซับซ้อน ยกตัวอย่างว่าคุณอยากเอาใจช่วยเขาเรื่องงาน และพร้อมทำในสิ่งที่เขาสั่ง ทว่าในการที่คุณไม่เคยศึกษา ไม่เคยลงมือทำมาก่อน การช่วยนั้นมันไม่เกิดผลดีอะไร เพราะการทำอะไรโดยไม่เคยรู้ ไม่มีประสบการณ์บางทีมันไม่ช่วยให้งานดี หรือเร็วขึ้น อาจเสียหายด้วยซ้ำ อะไรคล้าย ๆ นี้ที่แค่ตามใจไม่พอ ซึ่งเป็นเรื่องเดียวกับใส่ใจ และโดยรวมแล้วตามใจทุกอย่างมันยากจะเชื่อว่าใส่ใจ..

  4. เอาใจไม่ใช่หนทางคืนดี
    มุมนี้ต้องดู หรือทำความเข้าใจด้วยว่า เรากล่าวถึงการ “เอาใจคนเอาใจยาก” ในภาวะปกติไม่ใช่ภาวะมีปัญหา การทะเลาะกัน งอนกัน แล้วจะเอาใจให้ได้ โดยคิดว่าตอนนี้เข้าเอาใจยาก ก็คงไม่ใช่ ซึ่งเขามองได้หลายมุม ทั้งคุณไม่ยอมรับเรื่องที่ทำผิด และกลบเกลื่อนความผิด เผลอ ๆ กลายเป็นสิ่งย้ำด้วยว่า “คุณผิดจริง” หรือผิดมากกว่าที่เขาคิด จึงมาเอาใจ รวมถึงในยามที่คนเราไม่พอใจ ความแปรปรวนในแบบ ไม่เอาอะไรทั้งนั้นเกิดได้ง่าย ซึงวิธีจะดีกัน จบปัญหากัน มันควรเป็นอีกเรื่อง อีกกรณี แต่การเอาใจระหว่างนี้ แม้คุณอาจจะคิดว่า นี่กำลังแสดงออกว่า ง้อ ยอม ส่วนหนึ่งหากคืนดีได้ด้วยวิธีนี้ก็ดีไป แต่หากไม่สำเร็จ มันก็คนละเรื่องกับคนเอาใจยากนะ..
  5. เอาใจ ให้ง่ายขึ้น…
    หลายคนก็คิดว่า การเอาใจคือต้องทำให้ดีใจ ทำให้ประหลาดใจ เซอร์ไพรรรรรส์ (ลากเสียงสูง) ทำได้ก็ดีนะครับ อาจประทับใจกันไป แต่กับคนเอาใจยาก ถ้าไม่บวก อาจลบไปเลยก็ได้ มันมีวิธีง่าย ๆ ที่แม้ไม่ได้ดีที่สุด แต่ก็ใช้ได้ในหลายกรณีคือ การถามไปตรง ๆ ชอบเสื้อแบบไหน ชอบของอันนี้ไหม อยากได้อันนั้นไหม วันเกิดเอาอะไรดี หรือในเรื่องที่ละเอียดอ่อน ก็ถามไปเลยว่า “ต้องทำอย่างไร” ให้เขา แล้วเราก็ทำตามนั้น โดยไม่มีเงื่อนไขหรือท่าทีประชด

    ทั้งนี้ต้องเข้าใจคล้ายที่บอกไปว่า เรากำลังเอาใจเขา หรือเราอยากได้เอง ในการทำให้ต้องดีใจ ต้องประหลาดใจ คนที่มีความสุขอาจเป็นเรา? แม้จะบอกว่าเราสุขเมื่อเห็นเขามีความสุข แต่ความสุขคนเราไม่เหมือนกัน การแสดงออกคนเราก็ไม่เหมือนกัน หลาย ๆ คนในเชิงจิตวิทยาล้วนแตกต่าง ถึงขั้นบกพร่องเรื่องการแสดงออกทางอารมณ์ก็มีไม่มากก็น้อย การพยายามเซอร์ไพรส์ อาจกลายเป็นกระตุ้นปมให้เขาแสดงออก เมื่อเขาทำไม่ได้ ไม่แสดงออกในท่าทีตื่นเต้นเพราะเขากลายเป็นอึดอัดแทนก็มี…

    อีกส่วนหนึ่งการซื้อของที่เขาใช้อยู่แล้ว ที่รู้อยู่แล้ว หรือการทำในสิ่งที่เขาต้องการอย่างตรงไปตรงมา แม้มันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกว่าต้องดีใจ ตื่นเต้น แต่คนเอาใจยากหลายคนเขา “ซึมซับ” และเชื่อเถอะเขารับรู้ในการเอาใจนั้นของคุณ (คนที่คิดแบบนี้ช่วยคอมเม้นท์ยืนยันได้นะครับ 🙂 ) คำเตือน การถามตรง ๆ ต้องถูกที่ ถูกเวลา และใช่ว่าจะใช้ได้กับคนเอาในยากทุกคน (/^-^(^ ^*)/

    ..ยาก กับเป็นไปไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน

  6. อย่าพยายามเอาใจ คนที่ไม่มีใจ..
    สิ่งสำคัญประการหนึ่งต้องดูด้วยว่า คนที่พยายามเอาใจอยู่นั้น เขามีใจกับเราหรือไม่ เพราะควรตระหนักไว้ด้วยว่า เอาใจยาก กับเขาไม่เคยอยากสนใจ ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน คงพอทราบดีว่า ทำอะไรกับคนไม่มีใจมันก็คงไม่เห็นผล ซึ่งไม่มีใจในที่นี้ อาจแบ่งได้เป็น 2 กรณี

    แบบที่ 1 คือ ไม่เคยมีใจ หรือ ไม่เคยพอ – แม้จะเชื่อว่ารู้กันดี คนที่ไม่เคยมีใจ กับคนไม่เคยพอไม่ต่างกัน เอาใจอย่างไรก็ไม่ต่างจากรดน้ำลงพื้นทรายจมหายไร้ค่า ไม่น่าต้องอธิบายอะไรไปมากกว่านี้

    แบบที่ 2 คือหมดใจ ไม่เหมือนเดิม – แม้จะคล้ายกันแต่ในแบบนี้อาจเป็นที่เราเอง มากกว่าเป็นที่เขา หรือทั้งสองฝ่ายมีเหตุทำให้ความสัมพันธ์ต่อกันเปลี่ยนแปลงไป

    อย่างไรก็ตามการเอาใจคนไม่มีใจ หรือหมดใจส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างไร้ประโยชน์ แบบที่ 2 อาจมีภาษีดีกว่าตรงที่อาจมีโอกาสเหมือนเดิม แต่มันจะคุ้มค่าเสี่ยงไหม? ไม่ค่อยแน่ใจ…

ดีที่สุดของการเอาใจใครสักคน..

การเอาใจใครจริง ๆ มันย่อมมากกว่าแค่การ “ให้” และอาจเรียกเต็ม ๆ ว่า “เอาใจใส่” หรือ ใส่ใจ ซึ่งแม้จะ ใส่ใจแค่ไหนก็ไม่ได้การันตีผลลัพธ์ แต่หากอยากเอาใจใคร แม้คนที่ไม่มีใจก็อาจได้ผลดีคือ “ใส่ใจตัวเองให้มากพอก่อน…”

หากคุณเองยังไม่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองได้ จะมั่นใจว่าสิ่งที่มอบให้คนอื่น ดีได้อย่างไร?

คนเอาใจยากส่วนใหญ่เพราะเขาคิดมาก มีเหตุผลต่อเรื่องนั้นมาก หากคุณใส่ใจตัวเองมาก หรือเรียกว่ารักตัวเองมากพอ ไม่ว่าคุณจะคิด จะทำอะไรคุณมักจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง มันไม่ง่ายนะครับ คนที่รักและใส่ใจตัวเองจริงจัง ส่วนใหญ่เราก็เอาแต่แค่เอาใจตัวเอง ตามใจตัวเองในแบบเรื่อยเปื่อยกันอยู่เสมอ ไม่ได้คำนึงว่าอะไรดีที่สุดแท้จริง นี่คือเบื้องต้นว่า ยิ่งคุณไม่ได้คิดเพื่อตัวเองสักเท่าไหร่ คุณแน่ใจไหมว่าที่เอาใจเขาคิดไปดีแล้ว?

การใส่ใจตัวเองนั้นที่จริงก็เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เราจะคิด เราจะทำอะไร จะมีผลอะไรต่อเราบ้างมันดีที่สุดหรือยัง แม้ผลลัพธ์จะเกิดกับตัวเราโดยที่เราจะสนหรือไม่ก็ตาม มันก็ส่วนหนึ่ง แต่เราจะทำแบบเดียวกันกับคนอื่นโดยไม่สนใจ ก็มิได้ คุณคิดว่าของยี่ห้อนี้ถูกดี แน่นอนถูกอาจไม่ทนทาน ใช้ ๆ ไปก่อนไม่เห็นเป็นไร แต่ถามว่ามันดีที่สุดไหม คุณก็รู้แก่ใจว่าไม่.. เมื่อคุณมอบสิ่งเดียวกันไปให้คนอื่น เขาต้องพึงพอใจที่สุดเชียวหรือ?

หากเราเลือกสิ่งที่มั่นใจว่าดีที่สุดให้ตัวเองได้ คุณก็ย่อมอยากมอบสิ่งนั้นให้คนที่คุณรักและแคร์อย่างไม่ต้องสงสัย และหากเป็นสิ่งที่คุณ “มั่นใจ” ว่าดีจริง อย่างไรเขาก็โต้แย้งคุณไม่ได้ เพราะคุณเลือกมาดี ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เป็นเช่นนั้นหรอก เราล้วนมักง่ายหรือมีความลำเอียงในการตัดสินใจมากกว่าที่เราคิด เหล่านี้ไม่เพียงแค่สิ่งของ การกระทำ การดูแล การห่วงใยยิ่งสะท้อนได้ชัดกว่า คุณกินอาหารแย่ ๆ คุณไม่มีทางใส่ใจสุขภาพใครได้ดีพอ คุณหาความสุขฉาบฉวย คุณก็ยากจะสร้างมั่นคงให้ใคร เพราะไม่วายต้องมีเรื่องปวดหัวจากสุขฉาบฉวยนั้น

แต่หากคุณบอกว่าคุณดูแลตัวเองอย่างดี แต่มีแฟนขี้เมาเป็นนิจ แค่เอาใจเขาด้วยการซื้อเหล้าให้ก็พอ ไม่เห็นใช่การที่เราดูแลตัวเองดีเลย ตรงนี้บนความเป็นจริงคุณว่าเราน่าจะพึงพอใจชีวิตแบบนี้หรือไม่ ไม่นับที่แสดงว่าเขาไม่ใช่คนเอาใจยาก “เลือกแฟนไม่ดี” เช่นนี้ก็ไม่ใช่การรักตัวเองเลยสักนิดเดียว คุณอาจงงว่าเกี่ยวกันด้วยหรือ?

นี่กำลังรวมถึงการพยายามเอาใจคนที่ไม่เคยพอ มันก็แสดงว่าเรากำลังทำร้ายตัวเองไปวัน ๆ หากคุณเองยังไม่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองได้ จะมั่นใจว่าสิ่งที่มอบให้คนอื่น ดีได้อย่างไร? มันเกี่ยวกันโดยที่บางครั้งผลลัพธ์ไม่ตรงไปตรงมา ถ้าครอบครัว ทางบ้านคุณรู้ว่าคุณมีแฟนไม่ดี เช่นขี้เมาจากที่ยกตัวอย่างไป แล้วเมื่อคุณปเอาใจ พ่อ แม่ พี่ น้อง ส่วนลึกจะสะท้อนในใจคนเหล่านั้นเขาจะรู้สึกไหมละว่า… “แกยังไม่ทำให้ชีวิตตัวเองดีเลย..” มันจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงควรทำให้ใครต่อใครเห็นก่อนว่า “เราพร้อมที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง” จนไม่มีใครกล้าที่จะสงสัยในสิ่งที่เลือกให้ หรือทำให้

โดยสรุปแล้วการเอาใจอาจไม่จำเป็นเท่าการใส่ใจ เพราะบางครั้งการเอาใจก็แค่เรื่องฉาบฉวยอย่างหนึ่ง ซึ่งอาจทำไม่ได้ตลอดไป แต่หากเรื่องไหนที่เราค้นพบว่าสิ่งเหล่านี้ดีต่อใจ ดีต่อชีวิตเราเองจริง ๆ เราคงอยากให้ใครคนนั้นได้รับและมีความสุขเช่นเดียวกัน และพร้อมที่จะทำตลอด เพราะเราก็ต้องทำอยู่ ใช้อยู่ ซื้ออยู่ หรืออยากได้อยู่แล้วด้วยซ้ำ ซึ่งแม้วันนี้เขาไม่เห็นค่าคุณก็จะไม่ได้รู้สึกเสียอะไร ก็ในเมื่อคุณค่านั้นมันคือเราที่ได้รับอยู่ดี และหากมันดีจริง ๆ วันหนึ่งเขาก็ย่อมเห็นย่อมเข้าใจว่าหลายสิ่งอย่างที่ทำอยู่นี้เพื่อใคร และที่จริงเรา “เอาใจ..ใส่ ใครเสมอมา..”

บทความฉบับปรับปรุง เผยแพร่ครั้งแรก Facebook Sirichaiwatt เมื่อ 18/08/2020

เมื่อต้องเอาใจ คนเอาใจยาก

Sirichaiwatt Avatar
วิทยากร คอลัมนิสต์ นักเขียน นักคิด ที่ปรึกษา อิสระ ปัจจุบันประกอบอาชีพหลัก พ่อบ้าน :P ส่วนวิทยากร ธุรกิจส่วนตัว และอื่น ๆ เป็นอาชีพรอง.. V(^0^)V
แสดงความคิดเห็น