ความสำเร็จคนเรามีรูปแบบ และขนาด ที่แตกต่างกัน การจะประสบความสำเร็จก็มีมีปัจจัยหลายประการ และแตกต่างอีกเช่นกัน มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบอกว่าปัจจัยใดทำให้ประสบความสำเร็จ แต่บทความนี้จะพูดถึงเหตุผลที่ทำอะไรไม่สำเร็จ ซึ่งอาจมีหลายปัจจัยและหลายเหตุผลเช่นกัน โดยในที่นี้จะกล่าวถึงเหตุผลหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นเหตุผลของคุณก็ได้นะ ที่ทำให้ไม่สำเร็จ..
เหตุผลที่ทำให้ทำอะไรไม่สำเร็จนี้เป็นเรื่องของ Mindset แนวคิด หรือทัศนคติ ไม่ใช่วิธีการ หรืออาจกล่าวได้ว่า เพราะคิดผิด วิธีการเลยผิดไปด้วยแบบนี้ก็ได้ เหมือนประโยคที่ว่า ผิดตั้งแต่กระดุมเม็ดแรก…
ถ้าอยากตื่นเช้า ต้องไม่ใช่พยายามตื่นให้เช้า!?
เข้าประเด็นเลยคือ ด้วยเราหลายคนชอบไปนิยามความสำเร็จ หรือ ไปมุ่งมั่น มีเป้าหมาย “ในสิ่งที่ไม่ใช่ แก่นแท้ ของสิ่งนั้น” หรือ เป็นการไปจดจ่อ (Focus) พยายามในส่วนที่เป็นปลายเหตุ เพื่อให้เข้าใจง่าย ก็ต้องมีตัวอย่าง เช่น…
อยากตื่นเช้า : เพราะคิด/รู้ ว่าการนอนตื่นสายไม่ดี โดยทั่วไป สิ่งที่เราคิด หรือทำคือ “พยายามตื่นให้เช้า” ตั้งนาฬิกาปลุก หาแรงจูงใจให้ลุกขึ้น อะไรทำนองนี้ แต่ผลก็มักจะออกมาว่า มันยาก เพราะมันง่วง มันยังไม่อยากลุก มันขี้เกียจอยู่ อาจพยายามตื่นเช้าด้สักวันสองวัน พอเข้าวันที่ขี้เกียจ มันก็จะขี้เกียจมากขึ้น มันจึงเริ่ม ยาก ยากมากขึ้นที่ลุกตื่น และเลิกทำไป… นี่คือเรื่องปกติ
จากตัวอย่างนี้ ที่จริงแล้วสิ่งที่ยากอาจไม่ใช่การนอนตื่นเช้า ซึ่งจะว่าไป ไม่ควรไปดิ้นรน พยายามตื่นให้เช้าขึ้นด้วยซ้ำ เพราะย้อนมองจริง ๆ แล้ว สิ่งที่ยาก (ทางความคิด) กว่า สำหรับคนนอนตื่นสาย คือ การนอนให้เร็ว นอนตั้งแต่หัวค่ำ เพราะถ้านอนเร็วได้ นอนหัวค่ำได้ ยังไง ๆ การตื่นเช้า จะง่ายขึ้นทันที อยากนอนเยอะ ๆ ลองพยายามนอนตั้งแต่ 6 โมงเย็นให้ได้ดูสิ.. และผมเชื่อว่า ถ้าจะทำกันจริง ๆ การมุ่งมั่นนอนเร็ว แล้วจะตื่นเช้า กับการ นอนดึกแล้วมุ่งมั่นตื่นเช้า แบบแรกง่ายกว่าเยอะ.. คุณว่าไหม? แต่คนเรามักมุ่งเพียงแค่ตื่นเช้า ทั้งที่น่าจะไปลองมุ่งนอนเร็วแทนดู
ถ้าบอกว่าอยากนอนเหมือนเดิมแต่ตื่นเช้าล่ะ ตรงนี้ก็ดูจะเอาแต่ใจตัวเองเกินไปที่จะให้อะไร ๆ เปลี่ยนโดยเราไม่เปลี่ยน.. เพราะได้บอกไปแล้วว่านี่มันเป็นเรื่องของการเปลี่ยนทัศนคติ หรือกระดุมเม็ดแรก ลองดูอีกตัวอย่างหนึ่ง เช่น
จะลดความอ้วน : ปัญหา หรือปัจจัยไม่ได้ยากที่จะลดอย่างไร ออกกำลังอย่างไร กระทั่งว่า “กินอะไรให้ไปขับออก” เพราะปัญหาแท้จริงคือ ทำอย่างไรไม่ให้กินเยอะ หรือกินสิ่งที่ไม่ดีต่อพุงเราต่างหาก จุดที่ลำบาก (ทางความคิด) คือ “ไม่กิน” จะว่าไปคือการไม่นำเข้า (input) ดีกว่า พยายามรีดเค้น (output) ที่ไม่ดีออกมา ซึ่งถ้าให้เปรียบเทียบ การนั่งเฉย ๆ หรือนั่งหาอะไรสนุก ๆ ทำ แค่อย่ากิน!! เทียบกับปล่อยให้ตัวเองกินแล้วลากสังขารไปออกกำลังกายชดใช้ แบบแรกดูง่ายกว่าเยอะ ก็ลองคิดดูสิครับ นั่งเฉย ๆ กับต้องไปวิ่ง ไปออกกำลัง นั่งเฉย ๆ สบายกว่าแน่นอน ที่สำคัญ คุณอาจพอรู้ด้วยว่า วิ่งแทบตาย ชดเชยโดนัทได้ชิ้นเดียว! หรือกาแฟลาเต้แก้วเดียว.. นี่ล่ะลดความอ้วนเลยยาก ที่จริงการลดความอ้วนมันยากง่ายกว่าคืออย่าให้ตัวเองอ้วน(ไม่กิน) ยังไงล่ะ
จากสองตัวอย่าง คนส่วนใหญ่มักพยายามทำไรแบบที่มันยากจะได้ผล บางทีก็ย้อนแย้งเหมือนเรื่องลดความอ้วนพยายามเอาออก แต่ไม่คุมการนำเข้า นี่คือความพยายามผิด ๆ ชัดเจน แต่บางท่านอาจมองว่า มันก็ยากพอ ๆ กันต้องพยายามเหมือนกัน ก็มีส่วนถูก การไม่พยายามอะไรเลยแล้วจะสำเร็จในเรื่องหนึ่งมันก็ดูแปลก ๆ เพียงแต่บางทีเราพยายามผิดวิธีเราก็เลยหมดกำลังใจ จึงทำให้ไม่เจอความสำเร็จในเรื่องนั้น ๆ ไปเลย โดยที่ไม่เคยลองเปลี่ยนดูก่อน
ตัวอย่างที่ยกไปก็เป็นแค่เพียงตัวอย่าง ไม่ใช่การตอบปัญหาทั้งหมด และผมไม่ได้หมายความว่า นั่นคือทางเดียว หรือดีที่สุด ของการแก้ปัญหาตื่นเช้า/ลดความอ้วน..
ซึ่งอาจแย้งได้ว่า การตื่นเช้า ถ้าตั้งใจตื่นจริงง่ายกว่านอนเร็ว หรือการพยายามออกกำลัง ง่ายกว่าห้ามไม่ให้ตัวเองกิน แต่แท้ที่สุดแล้ว หากมุ่งผลสำเร็จ จะเลือกแนวทางไหนก็สุดแท้แต่บุคคล วิธีไหนควรจะสำเร็จก็ตามนั้น แต่ที่ไม่สำเร็จ เรามักแค่ “เลือกตามใจตัวเอง” แล้วไม่ทำในสิ่งที่ “แค่คิด” ว่ามันยาก มันไม่น่าสำเร็จ โดยไม่พยายามมองอีกด้าน หรือทำอีกด้าน มองไม่เห็นอีกมุมหนึ่งเลยด้วยซ้ำ จึงพยายามแบบผิด ๆ เสมอมา
เรื่องนี้เป็นบทความดี ๆ สั้น ๆ ง่าย แต่เตือนสติได้ดีนักแล.. เอาละจะทำอะไรให้สำเร็จ สำรวจดูดี ๆ สิ่งที่ทำอยู่นี้มันยากเพราะอะไร ยากที่แนวคิด, วิธีการหรือกระบวนการกันแน่? ดีที่สุด กล้าเปลี่ยนมุมมอง ลองทุกแบบเลยก็ได้ ถ้าอยากให้เข้าใกล้ ความสำเร็จ เพราะถ้าเลือกแค่ทำตามใจตัวเอง ความเชื่อตัวเอง แล้วสำเร็จได้ ใคร ๆ ก็คงสำเร็จไปแล้วล่ะ..
บทความฉบับปรับปรุง เผยแพร่ครั้งแรก Facebook Sirichaiwatt เมื่อ 21/02/2020