บทความแง่คิด ที่เหมือนเป็นไดอารี่ และเตือนตัวเองทุกสิ้นปี สำหรับปีนี้นั้นอาจเป็นปีที่แปลกสำหรับผม เพราะเมื่อบางเรื่องมันสำเร็จเกินคาด แต่กลายเป็นต้องกลับมาตั้งคำถามว่า “อะไรคือความสำเร็จ?”
ทุกสิ้นปีเป็นช่วงที่เราหลายคนต้องสรุปผลจากเป้าหมายประจำปี (คงไม่ต้องพูดว่าต้นปีควรมีเป้าหมาย) แต่ที่ผ่านมาโดยส่วนตัวแล้ว ไม่มีสักปีเลยที่มีเรื่องไหนสำเร็จ 😅 อ่าว..
ใจเย็นก่อน ปกติแล้วผมตั้งเป้าหมายแบบวัดผลได้ (ใช้ OKRs) และมักตั้งเป้าให้ไกลนิดหนึ่ง กล่าวคือ ถ้าได้ 80% คือดีเยี่ยมแล้ว ถ้า 100% มันคือดีสุดยอดและยาก ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เคยได้ โดยตราบใดที่อยู่บนความ “ก้าวหน้า” มันคือพึงพอใจแล้ว ใครบ้างไม่พอใจกับชีวิตที่ก้าวหน้าทุกวัน ทุกปี และนั่นเองปีนี้มันดันเกิดขึ้น กับความสำเร็จตามเป้าหมายที่ไม่ใช่แค่ 100% แต่ 150% กันเลยทีเดียว เรื่องที่ว่าก็คือเรื่องของธุรกิจการงาน..
เชื่อเถอะว่า “ทุกความสำเร็จมีต้นทุน” หรือ “ไม่มีใครจะได้อะไรมาโดยไม่เสียอะไรเลย” โดยอย่างยิ่ง “เวลา” ซึ่งหากเราเข้าใจเรื่องนี้ดี เราจะให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านต่าง ๆ เพื่อให้ได้สิ่งหนึ่ง โดยไม่เสียสิ่งอื่นไป
แน่นอนว่าผมก็เข้าใจเรื่องดังกล่าว ที่ผ่านมาก็ไม่เคยตั้งเป้าหมายแต่ละปีในด้านเดียว เพราะชีวิตเราล้วนไม่ได้มีด้านเดียว เพียงแต่เมื่อความสำเร็จด้านหนึ่งมันไปได้ดี การที่เราจะตัดทิ้งหรือหยุดไว้แค่ “พอใจ” บางครั้งมันก็ทำได้ยาก เพราะอาจหมายถึงโอกาส และเรื่องของอนาคตเกี่ยวข้อง ดังนั้นเมื่อเราต้องเปิดรับความสำเร็จด้านหนึ่งมากไป “เวลา” และ “โอกาส” ของด้านอื่นย่อมน้อยลงไปโดยปริยาย…
ถ้าจะให้ผมยกตัวอย่างแบบเห็นภาพง่าย ๆ คือ ถ้าเรามีโอกาสเลื่อนตำแหน่งไปทำงานต่างประเทศเงินเดือนขึ้นเกินเท่าตัว ในขณะที่เราเพิ่งมีลูกน้อยกับภรรยาอันเป็นที่รัก เราก็ต้องเลือก ถ้าเราเลือกครอบครัว เราก็อาจจะขัดสนในด้านการดำเนินชีวิต และแน่นอน ถ้าเราเลือกฐานเงินเดือน เราก็จะขาดความสัมพันธ์และช่วงเวลาที่งดงามไป
จากตัวอย่างข้างต้นบางคนอาจจะคิดว่าเลือกได้ ตัดสินใจได้ นั่นเพราะประสบการณ์จาก “อดีต” บางอย่างบอกเรามา แต่หากมันเป็นเรื่องที่ต้องเกิดหรือกำลังจะเกิด ไม่มีใครที่ล่วงรู้อนาคต เราอาจทำได้ดีทั้ง 2 อย่าง หรือ เสียทั้ง 2 ด้านก็เป็นได้เช่นกัน
ต่อคำถามที่ว่า “อะไรคือความสำเร็จ?” เพราะความสำเร็จที่ “ไร้ความสุข” ย่อมไม่มีใครอยากได้ และเป็นสัจธรรมที่ “ไม่มีใครจะได้ทุกอย่าง” ดังนั้นปีนี้ และปีต่อไป “เป้าหมาย” อาจเป็น “การรักษาสมดุล” เพราะต่อให้สำเร็จด้านหนึ่งแต่รักษาด้านหนึ่งไว้ไม่ได้ ผลร้ายจากอีกด้านย่อมมีโอกาสมาทำลายความความสำเร็จที่มีอยู่ก็ได้ เช่น เราคิดว่ามันนี้มีความสุขแล้วกับสิ่งที่มี เรา “ไม่จำเป็นต้องสำเร็จ” ในเรื่องอะไรแล้ว ขอมีเวลาอยู่กับลูกเยอะ ๆ หรือมีเวลาทำเรื่องส่วนตัวเยอะ ๆ ก็พอ (ดูหนัง, ฟังเพลง, เที่ยว, เล่นเกม) นั่นหมายความว่า เราต้องมีเวลาทำงานน้อย มีรายได้จำกัด กระทั่งใส่ใจคนอื่น ๆ น้อย อีกไม่นานปัญหาจากสิ่งที่เราไม่ใส่ใจก็จะตามมา เช่น ปัญหาทางการงาน ทางการเงิน หรือจากบุคคลอื่น เป็นต้น
ในอีกด้านมันก็คือความสำเร็จ เพราะถ้าความสุขเราคือเล่นเกม การที่วันนี้เรามีเวลาเล่นเกมเยอะมาก นั่นก็คือเราสำเร็จมากกว่าใคร ลองคิดดูสิมันน่าอิจฉาในขณะที่หลายคนต้องทำงานงก ๆ แต่ก็จะเข้าใจได้ไม่ยากว่านี่มันไม่ “สมดุล”
เหล่านี้คือข้อคิดสิ้นปีที่ว่า “อะไรคือความสำเร็จ?” แม้ว่ารูปแบบการตั้งเป้าหมายจะไม่เปลี่ยนไป แต่สิ่งที่ท้าทายที่สุดคือจะรักษาสมดุลได้อย่างไร เพราะหากทำให้ “ทุกอย่างดี” ไปพร้อมกันได้มากเท่าไร นั่นคงเป็นความสำเร็จที่ท้าทายที่สุด และชีวิตคงดีสุด ๆ ไปเลยว่าไหมครับ 😊
ท้ายนี้ขออวยพรสิ้นปีและปีใหม่ ขอให้ผู้อ่านมีความสำเร็จใน “ทุกด้าน” แม้ปีนี้ขาดเรื่องใดไปขอให้ปีหน้าเติมเต็มไปได้ให้ชีวิตสมดุลไปด้วยกันนะครับ 🙏🎉🎆
