“โลกไม่ได้ยุติธรรมนักหรอก” มีหลายมิติเหลือเกินที่เห็นอยู่ว่าเป็นเช่นนั้น แต่หากนี่เป็นเพียงการบ่น ระบาย มันคงไม่ได้อะไรขึ้นมา ขยายความให้เสียหน่อยว่า ด้วยโลกมันกว้างกว่าตัวเรานัก จึงเป็นไปได้ยากที่เหตุการณ์ ปัจจัยต่าง ๆ จะเหมือน จะเท่ากันได้ทุกแห่ง และบางทีที่ความไม่ยุติธรรมมีอยู่ทั่วไปอาจไม่ใช่เพราะโลก แต่เป็นที่ “คน”
ในยามทุกข์ยาก เราอยากบ่น อยากโทษ มันทุกอย่าง พอยามดี ก็ไม่ค่อยเหลียวมอง หรือแบ่งปันใคร รวม ๆ คือเสียไม่ยอม ได้จะเอา จะว่าไปมันก็ธรรมชาติมนุษย์ มุมหนึ่งดูไม่ผิดอะไร เพราะหลายคนเวลาแย่ไม่มีใครช่วย เวลาดีมักจะมีเพื่อนฝูงเข้าหา และในทางตรงกันข้าม บางคนได้ดีจากการสนับสนุน แต่พอได้มากขึ้นกิเลสก็บังตา อยากได้เอาไว้เพียงลำพัง นี่ก็มีไม่น้อย..
ผลประโยชน์ ผลลัพธ์ หรือความสำเร็จ ตอนไม่ได้มา หลายคนโทษฟ้าโทษดินลิขิต แต่ตอนได้มามักทะนงตนว่าเพราะข้าคนเดียวเก่ง ทีนี้ถ้าแย่ลงไปใหม่ล่ะ จะเพราะข้าหรือว่าฟ้าดิน? ดังที่เห็นกันทั่วไปตัวเองยังไม่ค่อยมีความยุติธรรมให้ตัวเราเองเลย จะไปว่าโลกทำไมกันนะ.. 🤔
ที่จริงนี่เป็นบทความเรื่องเล่า(รีวิวส่วนตัว ครึ่งปี 2566 แต่ลงเว็บไซต์ช้าไปหน่อยมาก) แต่เกริ่นนำไว้ไม่ต่างบทความทั่วไป 😅 ก็เพราะแง่คิดที่อยากแบ่งปัน เน้นย้ำเรื่อง “คิดและทำ” ซึ่งทุกอย่างเริ่มจากการมีเป้าหมาย ที่ถ้าใครเป็น Fanpage หรือติดตามบทความบนเว็บไซต์ คงเคยเห็นหรือทราบดีว่าผู้เขียน ใช้ OKRs มาเป็นเครื่องมือกำหนด Year Plan (แผนประจำปี) แล้ว 1 ปีก็ผ่านไปรวดเร็ว ถ้าถามว่า ปีที่แล้วของคุณได้อะไรมาบ้าง?… หลายคนตอบไม่ได้ และอาจรู้สึกได้ว่า เสียเวลาไปตั้งปีหนึ่งไม่ได้อะไรเลย แล้วนี่ก็อีกครึ่งปีแล้ว…
ดังที่ทราบดีปัญหามันไม่ใช่แค่ “มี – ไม่มี” เป้าหมาย แต่มันต้องชัดเจน มีการลงมือทำ และมุ่งเน้นด้วย.. ซึ่งมันดูยุ่งยาก เช่นผมที่มีทั้งเป้าหมายปี แผนงานรายเดือน และ todo lists รายวัน (ไว้จะเล่าบทความต่อไป) ความยุ่งยากนี้ก็ไม่แปลกสำหรับ… คนไม่ทำ หรือคนที่ยอมแพ้แล้ว(หรือพอใจแล้ว เส้นบาง ๆ) แต่หากเรามีภาระมาก มีเป้าหมายชัดเจน หรือคนที่อยากก้าวหน้า มั่นคง สิ่งเหล่านี้ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นมาก ชัดเจนขึ้นมาก เพราะความสำเร็จจะวัดได้ และความก้าวหน้าจะเหมือนเดินขึ้นบันได ที่ไม่ใช่รอเปิดแผ่นป้ายลุ้นเอา
ประเด็นสำคัญอยู่ตรงที่ เมื่อรู้ว่า วัน ๆ เราทำอะไร เราได้อะไรหรือเราไม่ได้อะไรดังในแผน จะเพราะขี้เกียจเอง, ผิดพลาด หรือ เข้าใจผิดเอง เราก็จะไม่โทษอะไร ในเมื่อผลลัพธ์มันตรงกับเหตุ เราจะสามารถยุติธรรมต่อตนเองได้มากพอ ในขณะที่ธรรมชาติคน “คิดเข้าข้างตัวเองเสมอ” ผิดไม่ใช่เรา ถูกเพราะเรา เช่นนี้ ชีวิตก็มักวนเวียน หาเหตุผิดไม่ได้ หาเหตุถูกไม่ได้ ก็ลองผิด ลองถูก วนไป ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง มันก็สมกันดี เอ.. หรือยุติธรรมน 🤔
ถ้ายุติธรรมต่อตนเองได้ กับโลกที่ไม่ยุติธรรม ซึ่งความจริงแล้วปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้ก็มีอีกมาก(โลกไม่ยุติธรรมจริง ๆ) แต่เราจะเข้าใจได้ ไม่หลงว่าตอนนี้ดีเพราะตัวเองดี หรือตอนนี้แย่ เพราะโลกพาแย่ เหล่านี้นานไปอย่างไรก็ต่างกัน
ในเมื่อโลกไม่ยุติธรรม คงเสมือนเรือลำหนึ่งในท้องทะเล แม้จะพยายามคาดเดา แต่ลมฟ้า อากาศ ก็อาจไม่เป็นใจกับเส้นทางของเราได้ แต่ถ้าเรือแข็งแรงพอ ทะเลจะเป็นอย่างไร ลงท้ายก็อยู่รอด แต่เรือที่ประกอบมาแบบไม่เข้าใจ ไม่เรียนรู้อะไร หรือแบบขอไปที กี่เจ้าที่ก็คงช่วยไม่ได้ ยิ่งคนที่เหมือนลอยเรือไปอย่างไร้จุดหมาย ก็ไม่เข้าใจยังกล้าคาดหวังอะไรได้อย่างไร…
รีวิวครึ่งปีที่ผ่านมาของตัวเรา โชคดีที่ดิน ฟ้า อากาศ เป็นใจ แผนหลายอย่างก้าวหน้าไปด้วยดีเกินคาด จึงเป็นโอกาสดีที่เสริมสร้างความมั่นคงไปเรื่อย ๆ ต่อไป ปัญหาย่อมมาพร้อมการเติบโต คนที่ดีก็ตอบแทนกันไป คนไปกันไม่ได้ก็แยกย้ายตามทาง คนมาใหม่ก็ต้องปรับหากันบ้างตามธรรมดา เมื่อทุกผลลัพธ์ชัดเจนพอ มั่นใจว่ายุติธรรมกับตัวเองในทุกวัน แล้วโลกจะยุติธรรมหรือไม่เรารู้อยู่แก่ใจ..
ปล.มีเป้าหมายบางเรื่องสอบตกเช่นกัน แต่นั่นเราก็ไม่โทษใครปรับใหม่แค่นั้นเอง 😅
บทความฉบับปรับปรุง เผยแพร่ครั้งแรก Facebook Sirichaiwatt เมื่อ 04/07/2023
