“ปัญหาชีวิตเราล้วนมีกันทุกคน” ประโยคที่คุ้นชิน ที่ต่อท้ายด้วย “ขึ้นอยู่กับว่า ใครจะจัดการมันได้ดีกว่ากัน” เรื่องนี้ก็เช่นเคย เป็นเรื่องราวที่ได้เห็น พบ และเกิดแง่คิดขึ้นมาว่า ปัญหาชีวิตคนบางคนกับโรคมะเร็งช่างเหมือนกันจริง ๆ เหมือนทั้งสาเหตุการเป็น การรักษา ก็ไม่รู้ว่าคุณจะคิดเหมือนผมหรือเปล่า
ขี้เกียจอ่าน กดฟังแทนก็ได้นะ [Podcast]
ปัญหาชีวิตที่คิดแล้วเหมือนมะเร็ง
ปัญหาของชีวิตนั้น ย่อมนำมาซึ่งทุกข์ และผมก็เปรียบเอาว่าเหมือนร่างกายเรายามเจ็บ ป่วย ก็มีความรู้สึกทุกข์ ปัญหามาก น้อย ใหญ่ เล็ก ก็เหมือนความเจ็บป่วยที่แตกต่างกันไป หนักบ้าง เบาบ้าง โรคมะเร็งอาจดูเป็นเรื่องใหญ่ร้ายแรง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเปรียบเหมือนเฉพาะปัญหาใหญ่ ๆ ของชีวิตเสมอไป เพราะลักษณะของมะเร็งมันคือเนื้อร้าย.. ส่วนที่เคยเป็นของเรานี่แหละ เมื่อมันกลาย มันก็ค่อย ๆ กัดกินเซลล์ในร่างกายไปทีละน้อยลุกลามไปเรื่อย ๆ..
ชีวิตหลายคนวนเวียนกับปัญหาเดิม ๆ ไม่จบสิ้น ซึ่งหากจะให้มองว่าปัญหาแบบไหนเป็นเหมือนมะเร็งนั้น มันก็คือปัญหาจากบุคคลหรือสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว ที่สามารถสร้างปัญหาซ้ำ ๆ ได้ และย่อมลุกลามได้ไม่ต่างกัน แล้วมันยังคล้ายกันตรงที่บุคคลหรือสิ่งแวดล้อมนี้ มันก็เคยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรานี่แหละ มันเปลี่ยนสภาพจากดีไปร้าย กลับมาทำลายสุขภาพจิต สุขภาพใจได้ซ้ำบ่อย ๆ..
การรักษามะเร็ง
ในที่นี้ผมไม่ได้มีความรู้ทางการแพทย์มาพูดคุย แต่ที่ทราบมามันก็มีกันอยู่ 3 ประการ ผ่าตัด, ฉายรังสี, เคมีบำบัด มีสิ่งหนึ่งที่ช่วยบรรเทาได้ ไม่ว่าก่อนจะเป็นหรือหลังเป็นมะเร็งแล้วก็ตาม คือ “เปลี่ยนพฤติกรรม” เป็นคำที่พูดง่าย เข้าใจง่าย แต่ทำยาก ตัวอย่างที่รู้ ๆกันดีเช่นว่า สูบบุหรี่มีโอกาสเป็นมะเร็งปอด แต่เลิกไม่ได้ เพราะติดไปแล้ว ผมกล้าพูดจากประสบการณ์ตรงว่า การติดบุหรี่ ส่วนใหญ่ติดที่ “นิสัย” หรือพฤติกรรมนี่แหละ มันจึงเลิกยาก ในขณะที่คนเลือกที่จะไม่สูบแต่แรกมันก็ไม่มีทางประสบปัญหาเหล่านี้ เหมือนคนเราที่เลือกตัดบางอย่างไม่ได้แต่แรก รู้อยู่ว่าสิ่งนั้นมันอาจนำพาให้ชีวิตไม่ดี เช่น ยุ่งเกี่ยวกับคนมีคู่ แบบนี้รู้แต่แรกว่าไม่ดี แต่อยากลอง ที่นี้มันติดทางใจ เลิกไม่ได้ง่าย ๆ ก็วุ่นวายชีวิต แก้ไม่ตกกันต่อไป
การกินของมัน ๆ อาหารบางอย่างมีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็ง นี่ก็เช่นกัน มะเร็งลำไส้ มักเกิดจากพฤติกรรมการกิน พฤติกรรมอีกแล้ว สิ่งเล็กน้อยที่ทำประจำที่เรามักไม่เห็นผลตอนนั้น จึง ละเลย ไม่สนใจ รู้แต่บอกตัวเองว่าไม่เป็นไรหรอกน่า ก็เพราะสิ่งร้าย ๆ ลักษณะนี้มันมัก ไม่เห็นผลทันที โชคดีก็ไม่เป็นไร โชคร้ายก็โทษโชคชะตา ทว่าแท้จริงรู้แต่ไม่เลี่ยง บางทีถึงขั้นยิ่งนานยิ่งได้ใจ ไม่เชื่อว่าทำแบบนี้มันจะเกิด ก็เพราะทำมาตั้งนานไม่เห็นเป็นอะไร ปัญหาชีวิตก็คล้ายกัน บนคำว่า “ไม่เป็นไร” พอบ่อย ๆ นี่ล่ะตัวดี ก็ใช่ว่าไม่เป็นไรกับบางเรื่องไม่ได้ แต่หลาย ๆ เรื่องรู้แก่ใจ ไม่เป็นไร เพราะคิดว่าไม่หนักหนาในตอนนี้ ก็ต้องพิจารณาให้ดี แค่ตอนนี้แน่หรือเปล่า หรือสิ่งเหล่านี้กำลังสะสมรอวัน? (มะเร็งลำไส้นั้นมักเกิดกับคนอายุ 50 ปีขึ้นไป)
การผ่าตัดมะเร็ง จะทำได้ในกรณีที่มะเร็งยังไม่ลุกลามมาก นั่นก็คือตัดเอาเนื้อร้าย ชิ้นส่วน หรืออวัยวะส่วนนั้น ๆ ทิ้งไป เมื่อไม่มีอยู่ในร่างกายมะเร็งร้ายก็หายไปได้ ส่วนฉายรังสี และเคมีบำบัด ก็เช่นกัน คือการทำให้เซลล์มะเร็งนั้นตายไป ซึ่งบางทีก็ใช้ร่วมกับการผ่าตัดด้วยก็มี แต่ทุกวิธีที่กล่าวมา “มีความทรมาน” หากต้องผ่าตัดก็มีการเสียส่วนหนึ่งไป ส่วนฉายรังสี หรือเคมีบำบัด ก็มีผลข้างเคียง ร่างกายต้องอ่อนแอ ผมร่วง ตัวเหลือง อาเจียน เป็นเบื้องต้น ไม่มีวิธีที่สบาย ๆ แน่นอน
การรักษามะเร็งชีวิต
ในแง่ของความที่แทบไม่ต่างกันเลยดังที่บอกไปว่า ปัญหาชีวิตที่เป็นเหมือนมะเร็งชีวิต ก็คือความเรื้อรัง มะเร็งชีวิต ยอดฮิตก็เช่น ภรรยา/สามี ไม่ดี, ลูกไม่ดี, สิ่งแวดล้อมหรือการงานไม่ดี ไม่พ้นเรื่องเหล่านี้ที่มีโอกาสทำให้ทุกข์ได้ไม่จบสิ้น เพราะสิ่งเหล่านี้เสมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคล้ายมะเร็งที่เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย
ดังนั้นการรักษามะเร็งชีวิต ก็มีบางอย่างบางมุมที่คล้ายกันดังต่อไปนี้
เปลี่ยนพฤติกรรม : มีบางเรื่องอาจไม่ใช่คนใกล้ตัว แต่เป็นคนรอบตัวที่สร้างปัญหาอันเกิดจาก เราเองนั้นมีนิสัยที่ไม่เข้าท่า เช่น ใจดี..(ผิดคน), ใจอ่อน(มักง่าย), ไม่กล้า(เรื่องที่ควร) จนทำให้ถูกเอาเปรียบบ้าง ตัดสินใจผิดซ้ำซากบ้าง ปล่อยให้อะไร ๆ เป็นปัญหาเสมอ และพอถึงเวลานั้น นิสัยเดิมเจ้ากรรมก็กลับมา เช่นยังไปใจดี ยังไปใจอ่อน หรือมักง่ายเอง แง่นี้ก็คิดได้เหมือนบุหรี่ให้ดีอย่ายุ่งตั้งแต่แรก หรือเหมือนมะเร็งลำไส้ อย่าหลงสบายใจในตอนแรก หรือช่างมัน คิดว่ามันถูกปาก มันอร่อย กินง่ายอยู่ง่าย เหมือนคำว่า “ไม่เป็นไร” แล้วมันก็ส่งผลหนัก ๆ มาให้ ในภายหลัง ดังนี้ถ้าเลิกได้ เปลี่ยนพฤติกรรมได้ ก็คงไม่เป็นมะเร็ง..
ต้องตัดสิ่งที่เสีย เนื้อร้าย ให้บางอย่างเดินหน้าไปได้ แม้ไม่เหมือนเดิม และแผลผ่าตัดมันเจ็บเสมอ
ตัดตัว รักษาหัวใจ : วิธีหนึ่งของการรักษามะเร็งคือการผ่าตัดเอาเนื้อร้ายนั้นออกไป หากเปรียบเทียบมาเป็นมะเร็งชีวิต การตัดใครบางคนออกจากชีวิตมันยาก เหมือนเราไม่อยากสูญเสียอวัยวะนั่นแหละ กลัว กังวล ทำใจไม่ได้ ต่าง ๆ นา ๆ
จึงอาจทำใจได้ง่ายกว่าหากคิดว่า ปัญหาจากคนเหล่านั้นคล้ายมะเร็ง แง่ต้องเลือกรักษาชีวิตตัวเองไว้ก่อน โดยคำว่าตัดในที่นี้ ก็ใช่ว่าจะต้องตัดสิ้นเยื่อใย เช่นบางคนมีลูกสร้างปัญหาให้ไม่จบสิ้น อย่างไรก็ลูก จะตัดเป็นตัดตายคงยาก ซึ่งก็ไม่ต้องขั้นนั้น เพราะผ่าตัดร่างกายตัดหมดก็ไม่ได้เช่นกัน แต่มันต้องตัดสิ่งที่เสีย ที่เป็นเนื้อร้าย ให้บางอย่างเดินหน้าไปได้ แม้ไม่เหมือนเดิม และแผลผ่าตัดมันเจ็บเสมอบนโลกความจริง การตัดอะไรทำนองนี้บางที อีกฝ่ายไม่ได้เป็นอะไรหรอก เราเองที่แบกไว้เสียหมดมาตลอด แค่เพราะไม่เคยตัดมันจริง ๆ เท่านั้นเอง สิ่งสำคัญประการหนึ่งก็คือ ผลลัพธ์ที่จะเปลี่ยนแปลงได้ ก็ต้องมาจากอะไรไม่เหมือนเดิม
ฉายรังสี เคมีบำบัด : ที่ส่วนใหญ่เรียกว่าคีโม การรักษามะเร็งด้วยวิธีเหล่านี้ มุมหนึ่งมันก็รู้สึกว่าเหมือนทำร้าย ทรมานตัวเองเหมือนกัน เพียงแต่ไม่ทำให้เราตายแต่มะเร็งตาย มันก็คล้ายกับชีวิตบางครั้งต้องยอมถอยหลังเพื่อที่จะเจ็บ จะทุกข์ จะทรมานในบางเรื่อง แต่มันก็หมดจบไป ยกตัวอย่างคล้ายการลาออกจากงาน อาจต้องลำบากเรื่องความเป็นอยู่ ดิ้นรน เหนื่อยยาก แต่เพื่อรักษาอนาคตแล้ว บางทีวันข้างหน้าร่างกายก็แข็งแรงกว่าเมื่อวันวานมากมาย ลองนึกดูดี ๆ จะพบว่าไม่มีใครไม่เคยล้ม ไม่เคยเจ็บ คนที่สำเร็จมาก ๆ ก็ล้มหนัก ๆ กว่าเรามาแล้วแทบทั้งนั้น
หรือเปรียบกับการหย่าขาดจากภรรยา/สามี นี่ก็เป็นการต้องรู้สึกแย่ ทุกข์ ทรมาน เปรียบกันคือโดนทำเคมีบำบัด ผมร่วง ตัวเหลือง อาเจียน อ่อนแรง แต่เมื่อพ้นภาวะ ทุกอย่างมันก็หายไป ได้ชีวิตใหม่กลับคืนมา จะเรียกการรักษามะเร็งชีวิตแนวนี้ว่า รังสี – เคมีบำบัด ก็ไม่ต่างกัน เพราะมันทรมานพักเดียว
เขียนมาจนถึงตอนนี้ผมรู้ดีว่า คนที่กำลังมีมะเร็งชีวิต หรือคนที่มีปัญหาซ้ำซาก หากได้อ่านก็คงรู้สึกว่า “มันง่ายได้อย่างพูดก็ดี, ไม่เป็นใครไม่รู้หรอก” หรือไม่ คนที่มีมะเร็งชีวิต ก็ไม่ได้มาอ่านอะไรแนวนี้ เป็นสิ่งหนึ่งที่น่าแปลก “การพัฒนาตนเอง” นั้น บางทีคนที่พัฒนาก็ไขว้คว้าเสมอ ไม่ปล่อยให้อะไรจม วนเวียนนาน เหมือนมะเร็งชีวิตแบบนี้ ส่วนคนที่วนเวียน ก็ต่อต้านทุกการพัฒนาเหมือนกัน จนเมื่อมันระยะสุดท้าย ก็ได้แต่พึ่ง ผีสาง เทวดา ยาผีบอก หวังบุญกรรม ดวงชะตากันไป ทั้ง ๆ ที่หลายปัญหาชีวิตเริ่มได้ง่าย ๆ แค่เปลี่ยนนิสัย หรือพฤติกรรม..
สุดท้าย.. โรคมะเร็ง ขั้นรุนแรงอาจรักษาไม่ได้ถึงตาย แต่มะเร็งชีวิตรักษาไม่ได้(หรือไม่รักษา) ไม่ตาย.. แค่ทุกข์ไปตลอดชีวิตคนนั้นเอง ไม่รู้มะเร็งไหน ร้ายกว่ากัน มันจึงรักษายากเย็น..
บทความฉบับปรับปรุง เผยแพร่ครั้งแรก Facebook Sirichaiwatt เมื่อ 24/3/2017