นิทาน แม่ผัวลูกสะใภ้

by

| Home » บทความดีๆ » บทความน่าอ่านและเรื่องราวดีๆ » Fiction » นิทาน แม่ผัวลูกสะใภ้ |


. . ปัญหา แม่ผัวลูกสะใภ้ มักเกิดขึ้นบ่อย ๆ ในหลายครอบครัว ซึ่งผมเองแค่เคยประสบกับตัว ได้พบได้เห็นจากเพื่อน จากญาติ จากบ้านใกล้เรือนเคียง ตัวเองไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้ เพราะแม่ผัว ปกติทำตัวเป็นพี่ผัวเสียมากกว่า หนำซ้ำทำตัววัยรุ่นกว่าลูกสะใภ้อีกแน่ะ . .

เรื่องสั้นนิทานแม่ผัวลุกสะใภ้

ที่เขียนเนี่ยเพราะอยากจะเขียนถึงนิทานเรื่องหนึ่งที่เคยเล่าให้ใครหลายๆ คนฟังมาแล้ว ที่บอกว่าเป็นนิทาน เพราะเป็นเรื่องที่เคยฟังจากพระนักเทศน์รูปหนึ่ง ท่านเทศน์ให้ฟังเมื่อกว่า 10 ปีมาแล้ว (ราว พ.ศ.2533) สมัยที่ยังเป็นนักเรียนและท่านบอกว่าเป็นนิทาน แต่ยังจำเรื่องนี้ได้ขึ้นใจ ดังนั้น หากเรื่องที่เล่านี้มีต้นฉบับจริงที่ไหน หรือใครพบเห็นที่ไหนช่วยบอกกล่าวด้วยจะได้แก้ไข และให้เครดิตที่ถูกต้องแก่ต้นฉบับ ซึ่งหากใครเคยฟังเรื่องนี้มาก่อนก็อาจผิดเพี้ยนไปบ้าง เพราะผมเล่าประติดประต่อมาจากความทรงจำล้วนๆ

เรื่องมีอยู่ว่า..เมื่อครั้งโบราณ(กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว จะว่างั้นก็ได้) มีครอบครัวอยู่ครอบครัวหนึ่ง ประกอบไปด้วย ตัวผัว แม่ผัว และแน่นอนลูกสะใภ้ ทั้งสามอยู่บ้านเดียวกัน ตามคอนเซปว่า แม่ผัวไม่ค่อยชอบลูกสะใภ้สักเท่าไหร่ ลูกสะใภ้เองก็ใช่ย่อย ไม่ชอบขี้หน้าแม่ผัวซักเท่าไหร่ ฝ่ายผัวนั้น ในทุกๆ วันต้องออกไปทำไร่ ทำนา ออกแต่เช้า กว่าจะกลับก็เย็นค่ำ ระหว่างวันที่แม่ผัวอยู่กับลูกสะใภ้ ต่างฝ่ายก็ไม่พูดจากัน ต่างคนต่างอยู่ เพราะต่างไม่ชอบพอกันมาตั้งแต่ต้น ลูกสะใภ้เมื่อรู้ว่าแม่ผัวไม่ชอบตนมาแต่แรก เมื่อแต่งเข้ามาอยู่บ้านเดียวกันก็ไม่อยากจะสุงสิงด้วย แต่ครั้งเมื่อยาม ที่ผัวอยู่ ต่างก็แสร้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่ทว่า ยามที่อีกฝ่ายเผลอ ต่างก็ใส่ไฟให้แก่กัน

“พอเอ็งไปทำงานมันไม่อยู่บ้านทันทีไม่อยู่บ้านอยู่ช่อง มันต้องออกไปมีชู้นอกบ้านแน่ๆ ไล่มันไปเสียเถอะ เห็นแก่แม่เถอะนะชาวบ้านเขาจะนินทา เอาได้” ฝ่ายแม่บอกกับลูกชายเมื่อลูกสะใภ้เผลอ

“วันๆ ไม่เคยช่วยฉันทำอะไรเลย พอบ่ายๆ ออกจากบ้านไปทุกวัน เห็นเขาว่ากัน ไปติดพนันอยู่ที่บ่อนแน่ะ ไม่ไหวนะพี่ ให้แม่พี่ไปอยู่ที่อื่นเสียเถอะ” ฝ่ายลูกสะใภ้บอกกับผัว

ฝ่ายผัวดูแล้วก็รู้ว่าไม่มีเค้าความจริงเลยทั้งคู่ และตนก็พอรู้อยู่ว่าต่างฝ่ายต่างไม่ค่อยชอบพอกัน ก็เพียงแต่รับฟังไป จนวันหนึ่งหนักข้อขึ้น

“เมื่อวานแม่เห็นคนมาด้อมๆ มองๆ ที่บ้านเรา มันต้องจ้างใครมาทำร้ายแม่แน่ๆ มันเกลียดแม่แม่รู้ เอ็งต้องไล่มันไปเสีย ไม่อย่างนั้นก็ฆ่ามันซะก่อนที่มันจะทำอะไรแม่นะ” ลูกชายได้ยินแม่พูดแบบนี้ถึงกับตกใจแต่ก็ไม่พูดอะไรขอกลับไปคิดก่อน

ด้านอีกฝ่ายก็พูดเช่นกันว่า “พี่ แม่พี่จะฆ่าฉัน มีคนมากระซิบบอกฉันมา ว่าแม่พี่เกลียดฉันมากจ้างคนจะมาทำร้ายฉันด้วย ทีแรกฉันก็ไม่เชื่อ แต่ฉันเห็นคนมาด้อมๆ มองๆ ไม่ไหวนะพี่ พี่ต้องทำอะไรสักอย่างนะ” ฝ่ายผัวก็ตกใจอีก เมื่อได้ยินเมียพูดขนาดนี้ จึงกลับไปนอนคิดอยู่หนึ่งคืน

วันต่อมา ยามค่ำผัวกลับมาจากไร่ ทุกคนก็มานั่งล้อมวงกินข้าวกินปลาปกติ ผัวก็บอกกับทุกคนว่าตนจะไม่อยู่ 2-3 สัปดาห์ จะต้องเข้าป่า ไปล่าสัตว์ล่าเนื้อ หลังจากนั้นเมื่อกินข้าวกันเสร็จ เมียก็เก็บจานชามไปล้างปกติ ขณะนั้นเองผัวก็ฉวยโอกาสพูดกับแม่ตัวเองว่า

“ฉันคิดดูเรื่องที่แม่พูดแล้ว เมื่อมันเลวขนาดนี้ ฉันก็จะไม่เอามันไว้แล้ว กลับจากป่า คราวนี้ฉันจะฆ่ามันทิ้งเสีย แต่มันก็เป็นเมียที่ดีของฉันมาตลอด เพื่อไม่ให้บาปนัก ระหว่างที่ฉันไม่อยู่ ก่อนที่มันจะต้องตาย แม่ต้องสัญญาก่อนว่า จะช่วยทำดีกับมันมากๆ ไหนๆ มันก็ต้องตาย เพื่อเป็นการไถ่บาปให้ฉันตกลงไหม” ฝ่ายแม่ก็ดีใจที่จะได้กำจัดเสี้ยนหนามชีวิต จึงตกลงรับปาก

ในตอนเข้านอน ผัวก็พูดกับเมีย คล้ายๆ กันนี้ “หลังจากกลับมา ฉันจะฆ่าแม่เสีย เพราะอยู่แล้วทำให้เราไม่มีความสุข แต่อย่างไรเสียก็เป็นแม่พี่ เธอต้องช่วยทำดีกับแม่มากๆ ระหว่างพี่ไม่อยู่ เพื่อเป็นการไถ่บาปให้พี่ ตกลงไหม” เมียก็ดีใจที่รู้ว่าจะกำจัดเสี้ยนหนามหัวใจไปได้ จึงรับปาก

เมื่อผัวเดินทางไปแล้วทั้งคู่ก็ทำตามสัญญา โดยต่างฝ่ายก็ต่างคิดว่า ทำๆ ไปเดี๋ยวอีกฝ่ายก็จะตายไปเสียที ต่างก็ดีต่อกัน เอาอกเอาใจกันอย่างที่สัญญาให้ไว้กับผัวหรือลูกของตน เมื่อผิดใจกัน อีกฝ่ายก็อโหสิ เพราะคิดว่าเอาว่าอย่างไรเสียเดี๋ยวอีกฝ่ายก็ต้องตาย เมื่ออยู่กันไปหลายวันเข้า เมื่อต่างฝ่ายต่างดีต่อกัน มีน้ำใจให้กัน อะไรๆ มันก็ดีไปหมด ต่างฝ่ายก็เริ่มเห็นใจ และซึ้งใจในความดีต่อกัน ต่างเริ่มเกิดความลังเล เมื่อรู้ว่า อีกฝ่ายจะต้องตายภายในเวลาอันใกล้นี้..

จนครั้นเมื่อฝ่ายผัวกลับมา ทุกอย่างก็เป็นไปตามกุศโลบายที่เขาได้วางไว้ พอเห็นว่า ลูกสะใภ้เผลอ ก็รีบมาบอกลูกชายตน “แม่กลับมาคิดดูแล้ว อย่าไปฆ่ามันเลย เรื่องที่แม่พูด แม่ไปสืบดูแล้วแม่คิดไปเอง อย่าไปทำอะไรมันเลยนะ” ฝ่ายลูกเมื่อได้ยินก็ตอบไปว่า “เมื่อแม่ต้องการอย่างนั้น ฉันก็จะไม่ทำอะไรแล้ว”

ฝ่ายลูกสะใภ้ก็เช่นกันรีบขอร้องผัวว่า อย่าไปฆ่าแม่เลย อย่างไรเขาก็แม่ ผัวก็ตอบรับเช่นกัน หลังจากนั้นเป็นต้นมาทุกคนก็อยู่กันอย่างมีความสุข.. Happy ending

เรื่องนี้ แง่คิด คิดกันอย่างไร ก็คิดกันเอา ความจริงผมมองว่ามันไม่เชิงแม่ผัวลูกสะใภ้อย่างเดียว มันคิดต่อยอดไปได้ ก็เอามาเล่าสู่กันฟังเท่านั้นเองครับ

Create Date : 27 กันยายน 2550 : ย้ายจากบล๊อกเดิม Bloggang

Sirichaiwatt Avatar
วิทยากร คอลัมนิสต์ นักเขียน นักคิด ที่ปรึกษา จากสายด้านธุรกิจ การตลาด สู่การจัดการบุคคลากร และว่าที่นักจิตวิทยาการปรึกษา
แสดงความคิดเห็น