การพัฒนาตนเอง ด้วยเทคนิค สูตร 3 – 7 – 21

by

| Home » บทความดีๆ » การพัฒนาตนเอง Think+ » การพัฒนาตนเอง ด้วยเทคนิค สูตร 3 – 7 – 21 |


การพัฒนาตนเอง

การพัฒนาตนเอง เป็นสิ่งที่หลายคนต้องการ ทว่า เคยหรือไม่? ลงมือทำหรือยังไม่ทันไร มันเลือนหายไปเสียเฉย ๆ ไม่พัฒนา และกลับมาเหมือนเดิม ไม่มีอะไรดีขึ้น

เราอาจเห็น ฟัง อ่าน จากหลาย ๆ ผู้รู้ โค้ช หรือสื่อต่าง ๆ ในแง่การพัฒนาตนเอง นี่ก็เป็นเพียงอีกหลักการหนึ่ง ซึ่งเป็นเพียง “หนึ่งวิธีในการพัฒนาตนเอง” ไม่ใช่สูตรสำเร็จเสียทีเดียว แต่เป็นส่วนประกอบที่ทำให้ เกิดการเปลี่ยนแปลงได้แน่นอน!!

ฟังบทความนี้แทนอ่านเอง ตามช่องทางเหล่านี้
ฟังบน Youtube

การพัฒนาตนเองนั้น แม้ว่าจะมีเทคนิควิธีการมากมาย แต่หากเพียงแค่ ค้นหา ศึกษา อ่าน หวังเพียงเป็นแรงบันดาลใจแล้วไม่นำไปปฏิบัติ ย่อมไม่เกิดประโยชน์ คล้ายกับบทความที่ได้เขียนไว้ เรื่อง แรงบันดาลใจ – แรงบันเทิงใจ

สำหรับบทความเรื่องนี้เป็นเทคนิคที่ช่วยในกระบวนการลงมือทำ ไม่ใช่การกระตุ้นหรือการสร้างเป้าหมาย แต่อย่างใด

ท้าวความไปก่อนว่า ผมใช้หลักการนี้เมื่อครั้ง เลิกบุหรี่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับผมในตอนนั้น เพราะ “ไม่มีแรงจูงใจ” ในการที่จะเลิกบุหรี่ แต่กระนั้น เมื่อหาแรงจูงใจได้แล้ว ที่เหลือก็คือ “ลงมือทำ” ซึ่งจะนำมาเป็นตัวอย่างในการใช้เทคนิคนี้กัน

การพัฒนาตนเอง ด้วยเทคนิค สูตร 3 – 7 – 21

แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ต้องมีคือ เป้าหมาย ก็หมายถึงสิ่งที่อยากจะทำให้สำเร็จในเรื่องหนึ่ง เช่น ฉันจะทำสิ่งนั้นให้เสร็จ สิ่งนี้ให้ได้ โดยเน้นว่าควรชัดเจนรับรู้ได้ เช่น การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม นิสัยของตัวเองบางอย่างเป็นต้น

สิ่งต่อมาที่ต้องมีและสำคัญมากคือ แรงจูงใจ ซึ่งจะมาจากการได้อ่าน การได้เห็น การเกิดประสบการณ์ตรง หรือแรงกดดันจากสิ่งแวดล้อมหรือรอบข้างก็ตาม ที่ทำให้เราได้รู้ชัดขึ้นว่าทำเพื่ออะไร? แรงจูงใจนี่เองอาจเป็นสิ่งหายาก แต่จะยากแค่ไหนก็ต้อง “บอกตัวเองให้ได้!”

เหมือนกรณีเลิกบุหรี่ ทีแรกผมก็ไม่มี แค่รู้สึกอยากเลิก ซึ่งตรงนี้แหละที่ถ้า “แค่รู้สึก” เราจะไม่ทำมันจริงจัง จึงใช้วิธีหาแรงจูงใจโดยการถามคนอื่นที่เขาเคยเลิกได้ ซึ่งแรงจูงใจของคนเหล่านั้นก็มักจะเป็น เพื่อลูก แฟน หรือสุขภาพของตัวเอง สำหรับผมนั้น ตอนนั้นไม่มีครอบครัว ไม่มีแฟน สุขภาพก็ดี แม้จะสูบบุหรี่มานานร่วม 20 ปี แต่ก็คิดเอาแบบเข้าข้างตัวเอง (ข้ออ้าง) เอาว่า สูบแค่นี้ไม่เป็นอะไร (ผมควบคุมปริมาณการสูบได้ดีวันละไม่ถึง 5 มวนในตอนนั้น) นั่นจึงทำให้ตัวเองไม่มีแรงจูงใจ แต่สุดท้าย ก็สร้างแรงจูงใจเองด้วยความคิดที่ว่า “ถ้าเราจะทำอะไรจริง ๆ เราก็ทำได้” เรื่องนี้ก็เช่นกัน แรงจูงใจที่ว่านี้ก็คือ “เอาชนะตัวเอง” หรือ สร้างความเชื่อในตัวเอง ก็ว่าได้

แรงจูงใจเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีก่อนจะ “ลงมือทำ” ซึ่งที่จริงหาได้ไม่ยากและเกิดขึ้นมาเองได้ด้วยอยู่แล้วด้วยซ้ำ เมื่อต้องการจะลงมือทำ

ขั้นต่อมาคือลงมือทำ ที่เราจะต้องเจอ อุปสรรค หรือจะมีบางอย่างมาเป็นตัวทำลาย เป้าหมาย หรือแรงจูงใจ ให้เหือดหาย หรือไกลออกไปได้ ด้วยหลายๆ เหตุผลจนท้อ จนเลิก หรือ ขี้เกียจ!! ก็ตามที เหล่านี้เองจึงต้องนำมาซึ่งกระบวนการเทคนิคแบบ 3 – 7 – 21

เทคนิค 3 -7 -21 นั่นเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่มีบางอย่างแฝงอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องนำไปลองทำและจะพบมหัศจรรย์แห่งพลังของเทคนิคนี้ในแบบที่ อะไรที่เคยทำไม่ได้ จะทำได้ขึ้นมา โดยอย่างยิ่ง “การเปลี่ยนแปลงตัวเอง” เหมือนที่ผมใช้มันช่วยเลิกบุหรี่ได้ หลังจากนั้นผมก็ยังนำมาใช้กับเรื่องการออกกำลังกาย การควบคุมอาหาร ก็ใช้ได้ดี มากเสียด้วย

วิธีการ

  1. ต้องมี เป้าหมาย และ แรงจูงใจ
  2. เขียนลงปฏิทิน หรือเขียน ลงกระดาษเหมือนการนัดหมาย ทุก 3 วัน 7 วัน และ 21 วัน (วางแผน)
  3. มีรางวัลแต่ละขั้นตอนให้กับตัวเอง (กระตุ้น)
  4. มีข้อห้าม! แต่ละลำดับขั้น (เตือน)
  5. ประกาศความสำเร็จให้คนรอบข้าง และวางเป้าหมายระยะยาวต่อไป (เปลี่ยนแปลง)
  6. เชื่อในความลับของเทคนิคนี้!! (ความลับอยู่ด้านท้าย)

ตัวอย่างวิธีทำ

สมมติว่าผมวาง เป้าหมาย = เลิกบุหรี่ และ แรงจูงใจ = คือเอาชนะตัวเอง

เริ่มต้นเมื่อวันที่ 1 ม.ค. ผมก็จะเขียนในปฏิทิน หรือลงกระดาษแปะไว้ให้เห็นอยู่ทุกวันว่า (แปะให้เห็นจริง ๆ มากกว่าหนึ่งที่ก็ได้ แต่ไม่ใช่บนหน้าจอคอมหรือโทรศัพท์)
1 ม.ค. เลิกบุหรี่ เพื่อเอาชนะตัวเอง
3 ม.ค. เลิกบุหรี่ได้ 3 วัน!!
7 ม.ค. เราผ่าน 7 วันอันตรายได้แล้ว!!
21 ม.ค. เลิกบุหรี่ได้แล้ว!! เอาชนะตัวเองได้แล้ว!

วางแผนการทำไว้ด้วยบางอย่าง กรณีนี้ปกติผมสูบบุหรี่หลังกินข้าว ก็จะดื่มน้ำเยอะ ๆ แทน แล้วรีบไปทำอย่างอื่นที่ชอบ เล่นเกมส์ อ่านหนังสือ นอนให้เร็วขึ้น อะไรก็ตามที่ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงนั้น

พอ 3 วันตื่นเช้ามารีบไปขีดฆ่าที่ปฏิทินเลยว่า 3 วันแล้ว ให้รางวัลตัวเอง เช่น ตอนนั้นอ่านหนังสือ ก็ซื้อหนังสือให้ตัวเองพอทำได้ เป็นต้น อาจเริ่มบอกคนใกล้ตัวว่าเรากำลังทำสิ่งนี้อยู่ เขาก็จะมีกำลังใจให้เรา

7 วัน ขีดฆ่าที่ปฏิทินเช่นเคย ให้รางวัลตัวเอง และยังเตือนตัวเองเสมอ ว่าเลี่ยง ห่างสิ่งกระตุ้นแง่ลบ พยายามนึกถึงว่า เราเก่ง เราเอาชนะตัวเองได้ (แรงจูงใจ)

พอ 21 วัน ฉลองสิครับแล้วก็บอกใครต่อใครเลยว่า* เลิกบุหรี่แล้ว ก็วางแผนนับวันต่อว่า ต้องครบเดือน รอวัน 3 เดือน 6 เดือน แต่ตอนนี้ชีวิตเราจะปกติมาก ไม่ค่อยฝืน ทน หรือเครียดอะไร

(ประกาศตัว เพื่อให้สิ่งแวดล้อมรับรู้ เพราะหลายเรื่องสิ่งแวดล้อมสำคัญในการกดดันทั้งบวกและลบ)

ในส่วน ข้อห้าม! ที่ต้องวางแผนให้ตัวเองเพื่อ “ทำให้เรื่องนี้สำเร็จ” ก็แล้วแต่กรณีแล้วแต่เรื่องที่เราทำ แต่เน้นไปในทางลด หรือกำจัดอุปสรรค สิ่งยั่วยุที่จะบั่นทอนเรา

เช่น ผมเลือกเริ่มต้นเลิกบุหรี่ในช่วงเวลาวันหยุด 3 วัน เพื่อที่จะไม่ต้องไปไหนเลย สามารถหลีกเลี่ยงการไปเจอคนสูบบุหรี่ ทิ้งบุหรี่ ไฟเชค ห้ามเห็นสิ่งเหล่านี้ และห้ามดื่ม แอลกอฮอล์ หรือดูหนัง เสพสื่อที่มีภาพการสูบบุหรี่ เพราะมันคือสิ่งกระตุ้นให้ อยากบุหรี่ ภายใน 7 วัน ทำนองนี้อยู่ในแผนการทำประกอบกันไป

ความลับและคำแนะนำเพิ่มเติม

  1. ในการสร้างเป้าหมายในการทำ หรือเปลี่ยนแปลงอะไร ไม่ต้องรีบคิดว่าตลอดไป เอาแค่ทำได้ 21 วันก่อนก็พอ เพราะลองถามตัวเองว่ากี่ครั้งแล้วที่คิดใหญ่แล้วทำไม่ได้
  2. ใน 3 วันแรกมักจะยากที่สุด แง่การกระทำ ให้หาวิธีดัดแปลง ประยุกต์ได้ และผลักดันให้ครบ 3 วันให้ได้ อย่าหยุดเพราะหากไม่ผ่าน 3 วัน คุณอาจไม่ทำเรื่องนี้อีกเลย!
  3.  หลังจาก 3 วัน บางคนอาจรู้สึกว่าทำได้ไม่ยาก แต่ ภายใน 7 วันนี้แหละแรงจูงใจมักจะหมดไป หรือแอบสร้างเงื่อนไขให้เลิกทำ เบื่อแล้ว พอแล้ว เป็นต้น ช่วงนี้ต้องกระตุ้นตัวเอง ว่า อย่าลืม อย่าเพิ่งเลิก ต่ออีกหน่อยให้ได้ ผลลัพธ์มันยิ่งใหญ่ครับ และเตือนเลยว่า 7 วันอันตรายจริง ๆ
  4. หลังจาก 3 – 7 วันแล้ว เราอาจรู้สึกเครียด ความยากจะน้อยลงมาก แต่วินัย ต้องมี ฝืน บังคับ ความลำบาก อึดอัด คือความจำเป็นที่ต้องผ่าน
  5. ที่มาของ 21 วันนี้ มากจากทฤษฎี 21 วัน ของ Dr. Maxwell Maltz ซึ่งเขียนลงในหนังสือขายดีชื่อ Psycho-Cybernetics ในการที่เชื่อว่าสามารถเปลี่ยนนิสัยได้หากทำต่อเนื่องกัน (หลายคนอาจเคยได้ยินว่า ถ้าจะจีบใครให้พยายามชวนเขาคุยให้ได้ทุกวัน 21 วันแล้วเลิกคุยไปเขาจะคิดถึงเราเอง ก็น่าจะนำมาจากหลักการนี้)
  6. บางที บางเรื่อง ที่เราเปลี่ยนแปลง อาจไม่ใช่เรื่องหลัก เรื่องใหญ่ หรือต้องไปบอกใคร แม้จะเป็นเรื่องที่ให้ชีวิตดีขึ้น ดังนั้นอาจเป็นเรื่องการทำส่วนตัวก็ได้ ไม่ต้องประกาศก็ได้ เพียงแต่ต้องให้คุณค่าสิ่งที่ตัวเองทำเสมอ
  7. หลังจากทำสำเร็จ 21 วัน เราก็อาจตั้งเป้าหมายต่อไป 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี ซึ่งตรงนี้ไม่ยากแล้ว เพราะมันปกติไปแล้ว เราก็สามารถไปพัฒนาเรื่องอื่น ๆ ได้ต่อไป และเรื่องนี้ก็จะกลายเป็นเรื่องปกติ(ที่ดี) ของเราไปเอง

สุดท้าย สิ่งเหล่านี้เป็นนามธรรม จับต้องยาก และผมไม่สามารถลงรายละเอียดได้มากนักเพราะแต่ละคนมีเงื่อนไข สิ่งแวดล้อมหรือปัจจัยต่างกัน หวังว่าผู้ที่สนใจจะนำหลักการไปใช้และประยุกต์ให้ได้ผล ผมเชื่อเหลือเกินว่าถ้าทำจริง ๆ ตามหลักการนี้อย่างเข้าใจ การเปลี่ยนแปลงนั้นมันสำเร็จแน่นอน.. 

การพัฒนาตนเองสูตร3721

Sirichaiwatt Avatar
วิทยากร คอลัมนิสต์ นักเขียน นักคิด ที่ปรึกษา จากสายด้านธุรกิจ การตลาด สู่การจัดการบุคคลากร และว่าที่นักจิตวิทยาการปรึกษา
แสดงความคิดเห็น